เมนู

พระสุตตันตปิฎก



ขุททกนิกาย ชาดก



เล่ม 4 ภาคที่ 2


ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น



มหานิบาตชาดก



1. เตมิยชาดก



ว่าด้วยพระเตมีย์ทรงบำเพ็ญเนกขัมมบารมี


[394] พ่ออย่าแสดงว่าเป็นคนฉลาด จงให้ชน
ทั้งปวงรู้กันว่าพ่อเป็นคนโง่ ชนในที่นั้นทั้งหมดจะได้
ดูหมิ่นพ่อว่าเป็นคนกาลกรรณี ความปรารถนาของ
พ่อจักสำเร็จได้ด้วยอุบายอย่างนี้.

[395] ดูก่อนเทพธิดา ข้าพเจ้าจะทำตามคำของ
ท่าน ที่ท่านกล่าวกะข้าพเจ้า ข้าแต่แม่เทพธิดา ท่าน
เป็นผู้ใคร่ประโยชน์ เป็นผู้ใคร่เกื้อกูลแก่ข้าพเจ้า.

[396] แน่ะนายสารถี ท่านจะรีบขุดหลุมไปทำไม
เราถามท่านแล้ว ท่านจงบอกแก่เราเถิดเพื่อน ท่าน
จักใช้หลุมทำประโยชน์อะไร.

[397] พระโอรสของพระราชา เป็นใบ้ เป็น
หนวกเป็นง่อยเปลี้ย เหมือนไม่มีพระมนัส พระราชา
ตรัสสั่งข้าพเจ้าว่า ฝังลูกเราเสียในป่า.

[398] ดูก่อนนายสารถี ข้าพเจ้ามิได้เป็นคน
หนวกนี้ได้เป็นคนใบ้ มิได้เป็นคนง่อยเปลี้ย มิได้มี
อินทรีย์วิกลวิการ ถ้าท่านฝังข้าพเจ้าในป่า ท่านก็ทำสิ่ง
ที่ไม่เป็นธรรม เชิญท่านดูขาและแขนของข้าพเจ้า
และเชิญฟังคำภาษิตของข้าพเจ้า ถ้าท่านฝังข้าพเจ้า
เสียในป่า ท่านก็ทำสิ่งที่ไม่เป็นธรรม.

[399] ท่านเป็นเทวดาหรือคนธรรพ์ หรือเป็นท้าว
สักกเทวราชผู้ให้ทานในก่อน ท่านเป็นใคร หรือเป็น
บุตรของใคร พวกเราจะรู้จักท่านได้อย่างไร.

[400] เรามิใช่เทวดา มิใช่คนธรรพ์ มิใช่ท้าวสัก-
กะผู้ให้ทานในก่อน เราที่ท่านจะฆ่าเสียในหลุม เป็น
โอรสของพระเจ้ากาสิกราช เราเป็นโอรสของพระ-
ราชาผู้ที่ท่านพึงพระบารมีเลี้ยงชีพอยู่เสมอ แน่ะนาย
สารถี ถ้าท่านฝังเราเสียในป่า ท่านก็ทำสิ่งที่ไม่เป็น
ธรรม บุคคลนั่งหรือนอนที่ร่มเงาของต้นไม้ใด ไม่
พึงหักรานกิ่งของต้นไม้นั้น เพราะผู้ประทุษร้ายมิตร
เป็นคนลามก พระราชาเป็นเหมือนต้นไม้ เราเป็น
เหมือนกิ่งไม้ ตัวท่านเป็นเหมือนคนอาศัยร่มเงา ถ้า
ท่านฝังเราเสียในป่า ท่านก็ทำสิ่งที่ไม่เป็นธรรม.

[401] บุคคลผู้ใดมิได้ประทุษร้ายเหล่ามิตร ชน
เป็นอันมากอาศัยบุคคลผู้นั้นเลี้ยงชีพ บุคคลผู้นั้นจาก
เรือนของตนไปที่ไหน ๆ ย่อมมีภักษาหารมากมาย.
บุคคลผู้ใดมิได้ประทุษร้ายเหล่ามิตร บุคคลผู้นั้นไปสู่
ชนบท นิคม ราชธานีใด ๆ ย่อมเป็นผู้อันหมู่ชนใน
ที่นั้น ๆ ทั้งหมดบูชา. บุคคลผู้ใดมิได้ประทุษร้ายเหล่า
มิตร โจรทั้งหลายไม่ข่มเหงบุคลผู้นั้น กษัตริย์ก็มิได้
ดูหมิ่นบุคคลผู้นั้น บุคคลผู้นั้นย่อมข้ามพ้นหมู่อมิตร
ทั้งปวง. บุคคลผู้ใดมิได้ประทุษร้ายเหล่ามิตร บุคคล
ผู้นั้นจะมาสู่เรือนของตนด้วยมิได้โกรธเคืองใคร ๆ มา
ได้ความยินดีปรีดาในสภาที่ประชุม เป็นผู้สูงสุดของ
หมู่ญาติ. บุคคลผู้ใดมิได้ประทุษร้ายเหล่ามิตร บุคคล
ผู้นั้นสักการะคนอื่น ก็จะเป็นผู้อันคนอื่นสักการะตน
เคารพคนอื่น ก็จะเป็นผู้อันคนอื่นเคารพตน ย่อมเป็น
ผู้ได้รับความยกย่องและเกียรติคุณ. บุคคลผู้ใดมิได้
ประทุษร้ายเหล่ามิตร บุคคลผู้นั้นบูชาผู้อื่น ก็ย่อมได้
บูชาตอบ ไหว้ผู้อื่น ก็ย่อมได้ไหว้ตอบ และย่อมถึง
ยศและเกียรติ. บุคคลผู้ใดมิได้ประทุษร้ายเหล่ามิตร
บุคคลผู้นั้น ย่อมรุ่งเรืองดุจกองเพลิง ย่อมไพโรจน์ดุจ
เทวดา มีสิริประจำตัว. บุคคลผู้ใดมิได้ประทุษร้าย
เหล่ามิตร โคทั้งหลายของบุคคลผู้นั้นย่อมเกิด พืชที่
หว่านไว้ในนาย่อมงอกงาม บุคคลผู้นั้นย่อมได้บริโภค

ผลของพืชที่หว่านไว้. บุคคลผู้ใดมิได้ประทุษร้าย
เหล่ามิตร บุคคลผู้นั้นตกเหว ตกภูเขา หรือตกต้นไม้
ย่อมได้ที่พึ่งอาศัยไม่เป็นอันตราย. บุคคลผู้ใดมิได้
ประทุษร้ายเหล่ามิตร เหล่าอมิตรย่อมย่ำยีบุคคลผู้นั้น
ไม่ได้ ดุจต้นไทรมีรากและย่านงอกงาม พายุไม่อาจ
พัดพานให้ล้มได้ ฉะนั้น.

[402] ขอพระองค์เสด็จมาเถิด ข้าพระบาทจักนำ
พระองค์ซึ่งเป็นพระราชโอรสกลับสู่มณเฑียรของ
พระองค์ ขอพระองค์จงครองราชสมบัติ ขอพระองค์
จงทรงพระเจริญ. พระองค์จักทรงทำอะไรในป่า.

[403] แน่ะนายสารถี เราไม่ต้องการด้วยราช-
สมบัติที่เราจะพึงได้ด้วยการประพฤติอธรรม พร้อม
ด้วยญาติและทรัพย์.

[404] ข้าแต่พระราชบุตร พระองค์เสด็จกลับจาก
ที่นี้ จะทำให้ข้าพระองค์ได้รางวัลเครื่องยินดี เมื่อ
พระองค์เสด็จกลับไปแล้ว พระชนกและพระชนนีจะ
พระราชทานรางวัล เครื่องยินดีแก่ข้าพระองค์. ข้าแต่
พระราชบุตร เมื่อพระองค์เสด็จกลับไปแล้ว นางสนม
กุมาร พ่อค้า และพราหมณ์เหล่านั้น จะยินดีให้
รางวัลแก่ข้าพระองค์. ข้าแต่พระราชบุตร เมื่อ
พระองค์เสด็จกลับไปแล้ว กองทัพช้าง กองทัพม้า
กองทัพรถ กองทัพราบ แม่เหล่านั้น จะยินดีให้รางวัล

แก่ข้าพระองค์. ข้าแต่พระราชบุตร เมื่อพระองค์เสด็จ
กลับไปแล้ว ชาวชนบท ชาวนิคม ผู้มีธัญญาหารมาก
จะประชุมกันให้เครื่องบรรณาการแก่ข้าพระองค์.

[405] พระชนกและพระชนนีและเราแล้ว ชาว
แว่นแคว้น ชาวนิคม และกุมารทั้งปวงก็สละเราแล้ว
เราไม่มีเหย้าเรือนของตน พระชนนีทรงอนุญาตเรา
แล้ว พระชนกก็ทรงสละเราจริง ๆ แล้ว เราจะบวช
อยู่ในป่าคนเดียว ไม่ปรารถนากามคุณทั้งหลาย.

[406] ความหวังผลของเหล่าบุคคลผู้ไม่รีบร้อน
ย่อมสำเร็จแน่นอน เรามีพรหมจรรย์สำเร็จแล้ว ท่าน
จงรู้อย่างนี้เถิด นายสารถี ประโยชน์โดยชอบของ
เหล่าบุคคลผู้ไม่รีบร้อน ย่อมให้ผลแน่นอน เรามี
พรหมจรรย์สำเร็จแล้ว ออกบวชแล้ว จะมีภัยแต่
ไหนเล่า.

[407] พระองค์มีพระดำรัสไพเราะ และมีพระ-
วาจาสละสลวยอย่างนี้ เหตุไฉนจึงไม่ตรัสในสำนัก
แห่งพระชนกและพระชนนีในกาลนั้นเล่า.

[408] เราเป็นง่อยเปลี้ย เพราะไม่มีเครื่องติดต่อ
ก็หาไม่ เราเป็นหนวกเพราะไม่มีช่องหูก็หาไม่ เรา
เป็นใบ้เพราะไม่มีลิ้นก็หาไม่ ท่านอย่าเข้าใจว่าเรา
เป็นใบ้ เราระลึกชาติปางก่อน ที่เราสวยราชสมบัติ
ได้ เราได้เสวยราชสมบัติในกาลนั้นแล้ว ต้องไปตก-
นรกอันกล้าแข็ง เราได้เสวยราชสมบัติในกาลนั้น

ยี่สิบปี ต้องหมกไหม้อยู่ในนรก 80,000 ปี เรากลัวจะ
ต้องเสวยราชสมบัตินั้น ขอชนทั้งหลายอย่าพึงอภิเษก
เราในราชสมบัติเลย เพราะเหตุนั้น เราจึงไม่พูดใน
สำนักของพระชนกและพระชนนีในกาลนั้น พระชน
ทรงอุ้มเราให้นั่งบนพระเพลา แล้วตรัสสั่งข้อความว่า
จงฆ่าโจรคนหนึ่ง จงจองจำโจรคนหนึ่ง จงเอาหอก-
แทงโจรคนหนึ่ง แล้วเอาน้ำแสบราดแผล จงเสียบ
โจรคนหนึ่งบนหลาว ตรัสสั่งเจ้าหน้าที่นั้นอย่างนี้
เราได้ฟังพระวาจาอันหยาบคาย ที่พระชนกตรัสนั้น
จึงกลัวการเสวยราชสมบัติ เรามิได้เป็นใบ้ ก็ทำเหมือน
เป็นใบ้ มิได้เป็นง่อยเปลี้ย ก็ให้คนเข้าใจว่าง่อยเปลี้ย
แกล้งนอนเกลือกกลิ้งอยู่ในปัสสาวะและอุจจาระ
ของตน ชีวิตนั้นเป็นของลำบาก เป็นของน้อยทั้ง
ประกอบด้วยทุกข์ ใครเล่าจะอาศัยชีวิตนี้ ทำเวรด้วย
เหตุการณ์หน่อยหนึ่ง ใครเล่าจะอาศัยชีวิตนี้ ทำเวร
ด้วยเหตุการณ์หน่อยหนึ่ง เพราะไม่ได้ปัญญา เพราะ
ไม่เห็นธรรม ความหวังผลของเหล่าบุคคลผู้ไม่รีบร้อน
ย่อมสำเร็จแน่นอน เรามีพรหมจรรย์สำเร็จแล้ว ท่าน
จงรู้อย่างนี้เถิด นายสารถี ประโยชน์โดยชอบของ
เหล่าบุคคลผู้ไม่รีบร้อน ย่อมให้ผลแน่นอน เรามี
พรหมจรรย์สำเร็จแล้ว ออกบวชแล้ว จะมีภัยแต่
ไหนเล่า.