เมนู

ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ

ชาตก-อฏฺฐกถา

(ทุติโย ภาโค)

2. ทุกนิปาโต

1. ทฬฺหวคฺโค

[151] 1. ราโชวาทชาตกวณฺณนา

ทฬฺหํ ทฬฺหสฺส ขิปตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ราโชวาทํ อารพฺภ กเถสิฯ โส เตสกุณชาตเก (ชา. 2.17.1 อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติฯ เอกสฺมิํ ปน ทิวเส โกสลราชา เอกํ อคติคตํ ทุพฺพินิจฺฉยํ อฑฺฑํ วินิจฺฉินิตฺวา ภุตฺตปาตราโส อลฺลหตฺโถว อลงฺกตรถํ อภิรุยฺห สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ผุลฺลปทุมสสฺสิริเกสุ ปาเทสุ นิปติตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ อถ นํ สตฺถา เอตทโวจ – ‘‘หนฺท กุโต นุ ตฺวํ, มหาราช, อาคจฺฉสิ ทิวา ทิวสฺสา’’ติฯ ‘‘ภนฺเต, อชฺช เอกํ อคติคตํ ทุพฺพินิจฺฉยํ อฑฺฑํ วินิจฺฉินนฺโต โอกาสํ อลภิตฺวา อิทานิ ตํ ตีเรตฺวา ภุญฺชิตฺวา อลฺลหตฺโถว ตุมฺหากํ อุปฏฺฐานํ อาคโตมฺหี’’ติฯ สตฺถา ‘‘มหาราช, ธมฺเมน สเมน อฑฺฑวินิจฺฉยํ นาม กุสลํ, สคฺคมคฺโค เอสฯ อนจฺฉริยํ โข ปเนตํ, ยํ ตุมฺเห มาทิสสฺส สพฺพญฺญุพุทฺธสฺส สนฺติกา โอวาทํ ลภมานา ธมฺเมน สเมน อฑฺฑํ วินิจฺฉิเนยฺยาถฯ

เอตเทว อจฺฉริยํ, ยํ ปุพฺเพ ราชาโน อสพฺพญฺญูนมฺปิ ปณฺฑิตานํ วจนํ สุตฺวา ธมฺเมน สเมน อฑฺฑํ วินิจฺฉินนฺตา จตฺตาริ อคติคมนานิ วชฺเชตฺวา ทส ราชธมฺเม อโกเปตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา สคฺคปุรํ ปูรยมานา อคมิํสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริฯ

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิสฺมิํ ปฏิสนฺธิํ คเหตฺวา ลทฺธคพฺภปริหาโร โสตฺถินา มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมิฯ นามคฺคหณทิวเส ปนสฺส ‘‘พฺรหฺมทตฺตกุมาโร’’ตฺเวว นามํ อกํสุฯ โส อนุปุพฺเพน วยปฺปตฺโต โสฬสวสฺสกาเล ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา สพฺพสิปฺเปสุ นิปฺผตฺติํ ปตฺวา ปิตุ อจฺจเยน รชฺเช ปติฏฺฐาย ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรสิ, ฉนฺทาทิวเสน อคนฺตฺวา วินิจฺฉยํ อนุสาสิฯ ตสฺมิํ เอวํ ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺเต อมจฺจาปิ ธมฺเมเนว โวหารํ วินิจฺฉินิํสุฯ โวหาเรสุ ธมฺเมน วินิจฺฉยมาเนสุ กูฏฑฺฑการกา นาม นาเหสุํ, เตสํ อภาวา อฑฺฑตฺถาย ราชงฺคเณ อุปรโว ปจฺฉิชฺชิฯ อมจฺจา ทิวสมฺปิ วินิจฺฉยฏฺฐาเน นิสีทิตฺวา กญฺจิ วินิจฺฉยตฺถาย อาคจฺฉนฺตํ อทิสฺวา อุฏฺฐาย ปกฺกมนฺติ, วินิจฺฉยฏฺฐานํ ฉฑฺเฑตพฺพภาวํ ปาปุณิฯ

โพธิสตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘มยิ ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺเต วินิจฺฉยฏฺฐานํ อาคจฺฉนฺตา นาม นตฺถิ, อุปรโว ปจฺฉิชฺชิ, วินิจฺฉยฏฺฐานํ ฉฑฺเฑตพฺพภาวํ ปตฺตํ, อิทานิ มยา อตฺตโน อคุณํ ปริเยสิตุํ วฏฺฏติ ‘อยํ นาม เม อคุโณ’ติ สุตฺวา ตํ ปหาย คุเณสุเยว วตฺติสฺสามี’’ติฯ ตโต ปฏฺฐาย ‘‘อตฺถิ นุ โข เม โกจิ อคุณวาที’’ติ ปริคฺคณฺหนฺโต อนฺโตวฬญฺชกานํ อนฺตเร กญฺจิ อคุณวาทิํ อทิสฺวา อตฺตโน คุณกถเมว สุตฺวา ‘‘เอเต มยฺหํ ภเยนาปิ อคุณํ อวตฺวา คุณเมว วเทยฺยุ’’นฺติ พหิวฬญฺชนเก ปริคฺคณฺหนฺโต ตตฺถาปิ อทิสฺวา อนฺโตนคเร ปริคฺคณฺหิฯ พหินคเร จตูสุ ทฺวาเรสุ จตุคามเก ปริคฺคณฺหิฯ ตตฺถาปิ กญฺจิ อคุณวาทิํ อทิสฺวา อตฺตโน คุณกถเมว สุตฺวา ‘‘ชนปทํ ปริคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ อมจฺเจ รชฺชํ ปฏิจฺฉาเปตฺวา รถํ อารุยฺห สารถิเมว คเหตฺวา อญฺญาตกเวเสน นครา นิกฺขมิตฺวา ชนปทํ ปริคฺคณฺหมาโน ยาว ปจฺจนฺตภูมิํ คนฺตฺวา กญฺจิ อคุณวาทิํ อทิสฺวา อตฺตโน คุณกถเมว สุตฺวา ปจฺจนฺตสีมโต มหามคฺเคน นคราภิมุโขเยว นิวตฺติฯ

ตสฺมิํ ปน กาเล พลฺลิโก นาม โกสลราชาปิ ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺโต อคุณกถํ คเวสนฺโต หุตฺวา อนฺโตวฬญฺชกาทีสุ อคุณวาทิํ อทิสฺวา อตฺตโน คุณกถเมว สุตฺวา ชนปทํ ปริคฺคณฺหนฺโต ตํ ปเทสํ อคมาสิฯ เต อุโภปิ เอกสฺมิํ นินฺนฏฺฐาเน สกฏมคฺเค อภิมุขา อเหสุํ, รถสฺส อุกฺกมนฏฺฐานํ นตฺถิฯ อถ พลฺลิกรญฺโญ สารถิ พาราณสิรญฺโญ สารถิํ ‘‘ตว รถํ อุกฺกมาเปหี’’ติ อาหฯ โสปิ ‘‘อมฺโภ สารถิ, ตว รถํ อุกฺกมาเปหิ, อิมสฺมิํ รเถ พาราณสิรชฺชสามิโก พฺรหฺมทตฺตมหาราชา นิสินฺโน’’ติ อาหฯ อิตโรปิ นํ ‘‘อมฺโภ สารถิ, อิมสฺมิํ รเถ โกสลรชฺชสามิโก พลฺลิกมหาราชา นิสินฺโน, ตว รถํ อุกฺกมาเปตฺวา อมฺหากํ รญฺโญ รถสฺส โอกาสํ เทหี’’ติ อาหฯ พาราณสิรญฺโญ สารถิ ‘‘อยมฺปิ กิร ราชาเยว, กิํ นุ โข กาตพฺพ’’นฺติ จินฺเตนฺโต ‘‘อตฺเถโส อุปาโย’’ติ วยํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ทหรสฺส รถํ อุกฺกมาเปตฺวา มหลฺลกสฺส โอกาสํ ทาเปสฺสามี’’ติ สนฺนิฏฺฐานํ กตฺวา ตํ สารถิํ โกสลรญฺโญ วยํ ปุจฺฉิตฺวา ปริคฺคณฺหนฺโต อุภินฺนมฺปิ สมานวยภาวํ ญตฺวา รชฺชปริมาณํ พลํ ธนํ ยสํ ชาติํ โคตฺตํ กุลปเทสนฺติ สพฺพํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อุโภปิ ติโยชนสติกสฺส รชฺชสฺส สามิโน สมานพลธนยสชาติโคตฺตกุลปเทสา’’ติ ญตฺวา ‘‘สีลวนฺตสฺส โอกาสํ ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘โภ สารถิ, ตุมฺหากํ รญฺโญ สีลาจาโร กีทิโส’’ติ ปุจฺฉิฯ โส ‘‘อยญฺจ อยญฺจ อมฺหากํ รญฺโญ สีลาจาโร’’ติ อตฺตโน รญฺโญ อคุณเมว คุณโต ปกาเสนฺโต ปฐมํ คาถมาห –

[1]

‘‘ทฬฺหํ ทฬฺหสฺส ขิปติ, พลฺลิโก มุทุนา มุทุํ;

สาธุมฺปิ สาธุนา เชติ, อสาธุมฺปิ อสาธุนา;

เอตาทิโส อยํ ราชา, มคฺคา อุยฺยาหิ สารถี’’ติฯ

ตตฺถ ทฬฺหํ ทฬฺหสฺส ขิปตีติ โย ทฬฺโห โหติ พลวทฬฺเหน ปหาเรน วา วจเนน วา ชินิตพฺโพ, ตสฺส ทฬฺหเมว ปหารํ วา วจนํ วา ขิปติฯ เอวํ ทฬฺโหว หุตฺวา ตํ ชินาตีติ ทสฺเสติฯ พลฺลิโกติ ตสฺส รญฺโญ นามํฯ มุทุนา มุทุนฺติ มุทุปุคฺคลํ สยมฺปิ มุทุ หุตฺวา มุทุนาว อุปาเยน ชินาติฯ

สาธุมฺปิ สาธุนา เชตีติ เย สาธู สปฺปุริสา, เต สยมฺปิ สาธุ หุตฺวา สาธุนาว อุปาเยน ชินาติฯ อสาธุมฺปิ อสาธุนาติ เย ปน อสาธู, เต สยมฺปิ อสาธุ หุตฺวา อสาธุนาว อุปาเยน ชินาตีติ ทสฺเสติฯ เอตาทิโส อยํ ราชาติ อยํ อมฺหากํ โกสลราชา สีลาจาเรน เอวรูโปฯ มคฺคา อุยฺยาหิ สารถีติ อตฺตโน รถํ มคฺคา อุกฺกมาเปตฺวา อุยฺยาหิ, อุปฺปเถน ยาหิ, อมฺหากํ รญฺโญ มคฺคํ เทหีติ วทติฯ

อถ นํ พาราณสิรญฺโญ สารถิ ‘‘อมฺโภ, กิํ ปน ตยา อตฺตโน รญฺโญ คุณกถา กถิตา’’ติ วตฺวา ‘‘อามา’’ติ วุตฺเต ‘‘ยทิ ปน เอเต คุณาติ วทสิ, อคุณา ปน กีทิสี’’ติ วตฺวา ‘‘เอเต ตาว อคุณา โหนฺตุ, ตุมฺหากํ ปน รญฺโญ กีทิโส คุโณ’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ สุณาหี’’ติ ทุติยํ คาถมาห –

[2]

‘‘อกฺโกเธน ชิเน โกธํ, อสาธุํ สาธุนา ชิเน;

ชิเน กทริยํ ทาเนน, สจฺเจนาลิกวาทินํ;

เอตาทิโส อยํ ราชา, มคฺคา อุยฺยาหิ สารถี’’ติฯ

ตตฺถ เอตาทิโสติ เอเตหิ ‘‘อกฺโกเธน ชิเน โกธ’’นฺติอาทิวเสน วุตฺเตหิ คุเณหิ สมนฺนาคโตฯ อยญฺหิ กุทฺธํ ปุคฺคลํ สยํ อกฺโกโธ หุตฺวา อกฺโกเธน ชินาติ, อสาธุํ ปน สยํ สาธุ หุตฺวา สาธุนาว อุปาเยน ชินาติ, กทริยํ ถทฺธมจฺฉริํ สยํ ทายโก หุตฺวา ทาเนน ชินาติฯ สจฺเจนาลิกวาทินนฺติ มุสาวาทิํ สยํ สจฺจวาที หุตฺวา สจฺเจน ชินาติฯ มคฺคา อุยฺยาหิ สารถีติ, สมฺม สารถิ, มคฺคโต อปคจฺฉฯ เอวํวิธสีลาจารคุณยุตฺตสฺส อมฺหากํ รญฺโญ มคฺคํ เทหิ, อมฺหากํ ราชา มคฺคสฺส อนุจฺฉวิโกติฯ

เอวํ วุตฺเต พลฺลิกราชา จ สารถิ จ อุโภปิ รถา โอตริตฺวา อสฺเส โมเจตฺวา รถํ อปเนตฺวา พาราณสิรญฺโญ มคฺคํ อทํสุฯ พาราณสิราชา พลฺลิกรญฺโญ ‘‘รญฺญา นาม อิทญฺจิทญฺจ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ โอวาทํ ทตฺวา พาราณสิํ คนฺตฺวา ทานาทีนิ ปุญฺญานิ กตฺวา ชีวิตปริโยสาเน สคฺคปุรํ ปูเรสิฯ พลฺลิกราชาปิ ตสฺส โอวาทํ คเหตฺวา ชนปทํ ปริคฺคเหตฺวา อตฺตโน อคุณวาทิํ อทิสฺวาว สกนครํ คนฺตฺวา ทานาทีนิ ปุญฺญานิ กตฺวา ชีวิตปริโยสาเน สคฺคปุรเมว ปูเรสิฯ

สตฺถา โกสลราชสฺส โอวาทตฺถาย อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา พลฺลิกรญฺโญ สารถิ โมคฺคลฺลาโน อโหสิ, พลฺลิกราชา อานนฺโท, พาราณสิรญฺโญ สารถิ สาริปุตฺโต, พาราณสิราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

ราโชวาทชาตกวณฺณนา ปฐมาฯ

[152] 2. สิงฺคาลชาตกวณฺณนา

อสเมกฺขิตกมฺมนฺตนฺติ อิทํ สตฺถา กูฏาคารสาลายํ วิหรนฺโต เวสาลิวาสิกํ เอกํ นฺหาปิตปุตฺตํ อารพฺภ กเถสิฯ ตสฺส กิร ปิตา ราชูนํ ราโชโรธานํ ราชกุมารานํ ราชกุมาริกานญฺจ มสฺสุกรณเกสสณฺฐปนอฏฺฐปทฏฺฐปนาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ กโรติ สทฺโธ ปสนฺโน ติสรณคโต สมาทินฺนปญฺจสีโล, อนฺตรนฺตเร สตฺถุ ธมฺมํ สุณนฺโต กาลํ วีตินาเมติฯ โส เอกสฺมิํ ทิวเส ราชนิเวสเน กมฺมํ กาตุํ คจฺฉนฺโต อตฺตโน ปุตฺตํ คเหตฺวา คโตฯ โส ตตฺถ เอกํ เทวจฺฉราปฏิภาคํ อลงฺกตปฏิยตฺตํ ลิจฺฉวิกุมาริกํ ทิสฺวา กิเลสวเสน ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา ปิตรา สทฺธิํ ราชนิเวสนา นิกฺขมิตฺวา ‘‘เอตํ กุมาริกํ ลภมาโน ชีวิสฺสามิ, อลภมานสฺส เม เอตฺเถว มรณ’’นฺติ อาหารุปจฺเฉทํ กตฺวา มญฺจกํ ปริสฺสชิตฺวา นิปชฺชิฯ

อถ นํ ปิตา อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตาต, อวตฺถุมฺหิ ฉนฺทราคํ มา กริ, หีนชจฺโจ ตฺวํ นฺหาปิตปุตฺโต, ลิจฺฉวิกุมาริกา ขตฺติยธีตา ชาติสมฺปนฺนา, น สา ตุยฺหํ อนุจฺฉวิกา, อญฺญํ เต ชาติโคตฺเตหิ สทิสํ กุมาริกํ อาเนสฺสามี’’ติ อาหฯ โส ปิตุ กถํ น คณฺหิฯ อถ นํ มาตา ภาตา ภคินี จูฬปิตา จูฬมาตาติ สพฺเพปิ ญาตกา เจว มิตฺตสุหชฺชา จ สนฺนิปติตฺวา สญฺญาเปนฺตาปิ สญฺญาเปตุํ นาสกฺขิํสุฯ โส ตตฺเถว สุสฺสิตฺวา ปริสุสฺสิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาปุณิฯ อถสฺส ปิตา สรีรกิจฺจเปตกิจฺจานิ กตฺวา ตนุโสโก ‘‘สตฺถารํ วนฺทิสฺสามี’’ติ พหุํ คนฺธมาลาวิเลปนํ คเหตฺวา มหาวนํ คนฺตฺวา สตฺถารํ ปูเชตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ‘‘กิํ นุ โข, อุปาสก, พหูนิ ทิวสานิ น ทิสฺสสี’’ติ วุตฺเต ตมตฺถํ อาโรเจสิฯ

สตฺถา ‘‘น โข, อุปาสก, อิทาเนว ตว ปุตฺโต อวตฺถุสฺมิํ ฉนฺทราคํ อุปฺปาเทตฺวา วินาสํ ปาปุณิ, ปุพฺเพปิ ปตฺโตเยวา’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริฯ

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต หิมวนฺตปเทเส สีหโยนิยํ นิพฺพตฺติฯ ตสฺส ฉ กนิฏฺฐภาตโร เอกา จ ภคินี อโหสิ, สพฺเพปิ กญฺจนคุหายํ วสนฺติฯ ตสฺสา ปน คุหาย อวิทูเร รชตปพฺพเต เอกา ผลิกคุหา อตฺถิ, ตตฺเถโก สิงฺคาโล วสติฯ อปรภาเค สีหานํ มาตาปิตโร กาลมกํสุฯ เต ภคินิํ สีหโปติกํ กญฺจนคุหายํ ฐเปตฺวา โคจราย ปกฺกมิตฺวา มํสํ อาหริตฺวา ตสฺสา เทนฺติฯ โส สิงฺคาโล ตํ สีหโปติกํ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺโต อโหสิฯ ตสฺสา ปน มาตาปิตูนํ ธรมานกาเล โอกาสํ นาลตฺถ, โส สตฺตนฺนมฺปิ เตสํ โคจราย ปกฺกนฺตกาเล ผลิกคุหาย โอตริตฺวา กญฺจนคุหาย ทฺวารํ คนฺตฺวา สีหโปติกาย ปุรโต โลกามิสปฏิสํยุตฺตํ เอวรูปํ รหสฺสกถํ กเถสิ – ‘‘สีหโปติเก, อหมฺปิ จตุปฺปโท, ตฺวมฺปิ จตุปฺปทา, ตฺวํ เม ปชาปตี โหหิ, อหํ เต ปติ ภวิสฺสามิ, เต มยํ สมคฺคา สมฺโมทมานา วสิสฺสาม, ตฺวํ อิโต ปฏฺฐาย มํ กิเลสวเสน สงฺคณฺหาหี’’ติฯ สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ สิงฺคาโล จตุปฺปทานํ อนฺตเร หีโน ปฏิกุฏฺโฐ จณฺฑาลสทิโส, มยํ อุตฺตมราชกุลสมฺมตา, เอส โข มยา สทฺธิํ อสพฺภิํ อนนุจฺฉวิกํ กถํ กเถติ, อหํ เอวรูปํ กถํ สุตฺวา ชีวิเตน กิํ กริสฺสามิ, นาสาวาตํ สนฺนิรุชฺฌิตฺวา มริสฺสามี’’ติฯ อถสฺสา เอตทโหสิ – ‘‘มยฺหํ เอวเมว มรณํ อยุตฺตํ, ภาติกา ตาว เม อาคจฺฉนฺตุ, เตสํ กเถตฺวา มริสฺสามี’’ติฯ สิงฺคาโลปิ ตสฺสา สนฺติกา ปฏิวจนํ อลภิตฺวา ‘‘อิทานิ เอสา มยฺหํ กุชฺฌตี’’ติ โทมนสฺสปฺปตฺโต ผลิกคุหายํ ปวิสิตฺวา นิปชฺชิฯ

อเถโก สีหโปตโก มหิํสวารณาทีสุ อญฺญตรํ วธิตฺวา มํสํ ขาทิตฺวา ภคินิยา ภาคํ อาหริตฺวา ‘‘อมฺม, มํสํ ขาทสฺสู’’ติ อาหฯ ‘‘ภาติก, นาหํ มํสํ ขาทามิ, มริสฺสามี’’ติฯ ‘‘กิํ การณา’’ติ? สา ตํ ปวตฺติํ อาจิกฺขิฯ ‘‘อิทานิ กหํ โส สิงฺคาโล’’ติ จ วุตฺเต ผลิกคุหายํ นิปนฺนํ สิงฺคาลํ ‘‘อากาเส นิปนฺโน’’ติ มญฺญมานา ‘‘ภาติก, กิํ น ปสฺสสิ, เอโส รชตปพฺพเต อากาเส นิปนฺโน’’ติฯ