ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ
ขุทฺทกนิกาเย
เถรีคาถา-อฏฺฐกถา
1. เอกกนิปาโต
1. อญฺญตราเถรีคาถาวณฺณนา
อิทานิ เถรีคาถานํ อตฺถสํวณฺณนาย โอกาโส อนุปฺปตฺโตฯ ตตฺถ ยสฺมา ภิกฺขุนีนํ อาทิโต ยถา ปพฺพชฺชา อุปสมฺปทา จ ปฏิลทฺธา, ตํ ปกาเสตฺวา อตฺถสํวณฺณนาย กรียมานาย ตตฺถ ตตฺถ คาถานํ อฏฺฐุปฺปตฺติํ วิภาเวตุํ สุกรา โหติ สุปากฏา จ, ตสฺมา ตํ ปกาเสตุํ อาทิโต ปฏฺฐาย สงฺเขปโต อยํ อนุปุพฺพิกถา –
อยญฺหิ โลกนาโถ ‘‘มนุสฺสตฺตํ ลิงฺคสมฺปตฺตี’’ตฺยาทินา วุตฺตานิ อฏฺฐงฺคานิ สโมธาเนตฺวา ทีปงฺกรสฺส ภควโต ปาทมูเล กตมหาภินีหาโร สมติํสปารมิโย ปูเรนฺโต จตุวีสติยา พุทฺธานํ สนฺติเก ลทฺธพฺยากรโณ อนุกฺกเมน ปารมิโย ปูเรตฺวา ญาตตฺถจริยาย โลกตฺถจริยาย พุทฺธตฺถจริยาย จ โกฏิํ ปตฺวา ตุสิตภวเน นิพฺพตฺติตฺวา ตตฺถ ยาวตายุกํ ฐตฺวา ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตาหิ พุทฺธภาวาย –
‘‘กาโล โข เต มหาวีร, อุปฺปชฺช มาตุกุจฺฉิยํ;
สเทวกํ ตารยนฺโต, พุชฺฌสฺสุ อมตํ ปท’’นฺติฯ (พุ. วํ. 1.67) –
อายาจิตมนุสฺสูปปตฺติโก ตาสํ เทวตานํ ปฏิญฺญํ ทตฺวา, กตปญฺจมหาวิโลกโน สกฺยราชกุเล สุทฺโธทนมหาราชสฺส เคเห สโต สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิํ โอกฺกนฺโต ทสมาเส สโต สมฺปชาโน ตตฺถ ฐตฺวา, สโต สมฺปชาโน ตโต นิกฺขนฺโต ลุมฺพินีวเน ลทฺธาภิชาติโก วิวิธา ธาติโย อาทิํ กตฺวา มหตา ปริหาเรน สมฺมเทว ปริหริยมาโน อนุกฺกเมน วุฑฺฒิปฺปตฺโต ตีสุ ปาสาเทสุ วิวิธนาฏกชนปริวุโต เทโว วิย สมฺปตฺติํ อนุภวนฺโต ชิณฺณพฺยาธิมตทสฺสเนน ชาตสํเวโค ญาณสฺส ปริปากตํ คตตฺตา, กาเมสุ อาทีนวํ เนกฺขมฺเม จ อานิสํสํ ทิสฺวา, ราหุลกุมารสฺส ชาตทิวเส ฉนฺนสหาโย กณฺฑกํ อสฺสราชํ อารุยฺห , เทวตาหิ วิวเฏน ทฺวาเรน อฑฺฒรตฺติกสมเย มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา, เตเนว รตฺตาวเสเสน ตีณิ รชฺชานิ อติกฺกมิตฺวา อโนมานทีตีรํ ปตฺวา ฆฏิการมหาพฺรหฺมุนา อานีเต อรหตฺตทฺธเช คเหตฺวา ปพฺพชิโต, ตาวเทว วสฺสสฏฺฐิกตฺเถโร วิย อากปฺปสมฺปนฺโน หุตฺวา, ปาสาทิเกน อิริยาปเถน อนุกฺกเมน ราชคหํ ปตฺวา, ตตฺถ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปณฺฑวปพฺพตปพฺภาเร ปิณฺฑปาตํ ปริภุญฺชิตฺวา, มาคธราเชน รชฺเชน นิมนฺติยมาโน ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา, ภคฺควสฺสารามํ คนฺตฺวา, ตสฺส สมยํ ปริคฺคณฺหิตฺวา ตโต อาฬารุทกานํ สมยํ ปริคฺคณฺหิตฺวา, ตํ สพฺพํ อนลงฺกริตฺวา อนุกฺกเมน อุรุเวลํ คนฺตฺวา ตตฺถ ฉพฺพสฺสานิ ทุกฺกรการิกํ กตฺวา, ตาย อริยธมฺมปฏิเวธสฺสาภาวํ ญตฺวา ‘‘นายํ มคฺโค โพธายา’’ติ โอฬาริกํ อาหารํ อาหรนฺโต กติปาเหน พลํ คาเหตฺวา วิสาขาปุณฺณมทิวเส สุชาตาย ทินฺนํ วรโภชนํ ภุญฺชิตฺวา, สุวณฺณปาติํ นทิยา ปฏิโสตํ ขิปิตฺวา, ‘‘อชฺช พุทฺโธ ภวิสฺสามี’’ติ กตสนฺนิฏฺฐาโน สายนฺหสมเย กาเฬน นาคราเชน อภิตฺถุติคุโณ โพธิมณฺฑํ อารุยฺห อจลฏฺฐาเน ปาจีนโลกธาตุอภิมุโข อปราชิตปลฺลงฺเก นิสินฺโน จตุรงฺคสมนฺนาคตํ วีริยํ อธิฏฺฐาย, สูริเย อนตฺถงฺคเตเยว มารพลํ วิธมิตฺวา, ปฐมยาเม ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริตฺวา , มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธตฺวา, ปจฺฉิมยาเม ปฏิจฺจสมุปฺปาเท ญาณํ โอตาเรตฺวา, อนุโลมปฏิโลมํ ปจฺจยาการํ สมฺมสนฺโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สพฺพพุทฺเธหิ อธิคตํ อนญฺญสาธารณํ สมฺมาสมฺโพธิํ อธิคนฺตฺวา, นิพฺพานารมฺมณาย ผลสมาปตฺติยา ตตฺเถว สตฺตาหํ วีตินาเมตฺวา, เตเนว นเยน อิตรสตฺตาเหปิ โพธิมณฺเฑเยว วีตินาเมตฺวา, ราชายตนมูเล มธุปิณฺฑิกโภชนํ ภุญฺชิตฺวา, ปุน อชปาลนิคฺโรธมูเล นิสินฺโน ธมฺมตาย ธมฺมคมฺภีรตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺเต นมนฺเต มหาพฺรหฺมุนา อายาจิโต พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต ติกฺขินฺทฺริยมุทินฺทฺริยาทิเภเท สตฺเต ทิสฺวา มหาพฺรหฺมุนา ธมฺมเทสนาย กตปฏิญฺโญ ‘‘กสฺส นุ โข อหํ ปฐมํ ธมฺมํ เทเสยฺย’’นฺติ อาวชฺเชนฺโต อาฬารุทกานํ กาลงฺกตภาวํ ญตฺวา, ‘‘พหุปการา โข เม ปญฺจวคฺคิยา ภิกฺขู, เย มํ ปธานปหิตตฺตํ อุปฏฺฐหิํสุ, ยํนูนาหํ ปญฺจวคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ ปฐมํ ธมฺมํ เทเสยฺย’’นฺติ (มหาว. 10) จินฺเตตฺวา, อาสาฬฺหิปุณฺณมายํ มหาโพธิโต พาราณสิํ อุทฺทิสฺส อฏฺฐารสโยชนํ มคฺคํ ปฏิปนฺโน อนฺตรามคฺเค อุปเกน อาชีวเกน สทฺธิํ มนฺเตตฺวา, อนุกฺกเมน อิสิปตนํ ปตฺวา ตตฺถ ปญฺจวคฺคิเย สญฺญาเปตฺวา ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตา ปพฺพชิเตน น เสวิตพฺพา’’ติอาทินา (มหาว. 13; สํ. นิ. 5.1081; ปฏิ. ม. 2.30) ธมฺมจกฺกปวตฺตนสุตฺตนฺตเทสนาย อญฺญาสิโกณฺฑญฺญปฺปมุขา อฏฺฐารสพฺรหฺมโกฏิโย ธมฺมามตํ ปาเยตฺวา ปาฏิปเท ภทฺทิยตฺเถรํ, ปกฺขสฺส ทุติยายํ วปฺปตฺเถรํ, ปกฺขสฺส ตติยายํ มหานามตฺเถรํ, จตุตฺถิยํ อสฺสชิตฺเถรํ, โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐาเปตฺวา, ปญฺจมิยํ ปน ปกฺขสฺส อนตฺตลกฺขณสุตฺตนฺตเทสนาย (มหาว. 20; สํ. นิ. 3.59) สพฺเพปิ อรหตฺเต ปติฏฺฐาเปตฺวา ตโต ปรํ ยสทารกปฺปมุเข ปญฺจปณฺณาสปุริเส, กปฺปาสิกวนสณฺเฑ ติํสมตฺเต ภทฺทวคฺคิเย, คยาสีเส ปิฏฺฐิปาสาเณ สหสฺสมตฺเต ปุราณชฏิเลติ เอวํ มหาชนํ อริยภูมิํ โอตาเรตฺวา พิมฺพิสารปฺปมุขานิ เอกาทสนหุตานิ โสตาปตฺติผเล นหุตํ สรณตฺตเย ปติฏฺฐาเปตฺวา เวฬุวนํ ปฏิคฺคเหตฺวา ตตฺถ วิหรนฺโต อสฺสชิตฺเถรสฺส วาหสา อธิคตปฐมมคฺเค สญฺจยํ อาปุจฺฉิตฺวา, สทฺธิํ ปริสาย อตฺตโน สนฺติกํ อุปคเต สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน อคฺคผลํ สจฺฉิกตฺวา สาวกปารมิยา มตฺถกํ ปตฺเต อคฺคสาวกฏฺฐาเน ฐเปตฺวา กาฬุทายิตฺเถรสฺส อภิยาจนาย กปิลวตฺถุํ คนฺตฺวา, มานตฺถทฺเธ ญาตเก ยมกปาฏิหาริเยน ทเมตฺวา, ปิตรํ อนาคามิผเล, มหาปชาปติํ โสตาปตฺติผเล ปฏิฏฺฐาเปตฺวา , นนฺทกุมารํ ราหุลกุมารญฺจ ปพฺพาเชตฺวา, สตฺถา ปุนเทว ราชคหํ ปจฺจาคจฺฉิฯ
อถาปเรน สมเยน สตฺถริ เวสาลิํ อุปนิสฺสาย กูฏาคารสาลายํ วิหรนฺเต สุทฺโธทนมหาราชา เสตจฺฉตฺตสฺส เหฏฺฐาว อรหตฺตํ สจฺฉิกตฺวา ปรินิพฺพายิฯ อถ มหาปชาปติยา โคตมิยา ปพฺพชฺชาย จิตฺตํ อุปฺปชฺชิ, ตโต โรหินีนทีตีเร กลหวิวาทสุตฺตนฺตเทสนาย (สุ. นิ. 868 อาทโย) ปริโยสาเน นิกฺขมิตฺวา, ปพฺพชิตานํ ปญฺจนฺนํ กุมารสตานํ ปาทปริจาริกา เอกชฺฌาสยาว หุตฺวา มหาปชาปติยา สนฺติกํ คนฺตฺวา, สพฺพาว ‘‘สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิสฺสามา’’ติ มหาปชาปติํ เชฏฺฐิกํ กตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตุกามา อเหสุํฯ อยญฺจ มหาปชาปติ ปุพฺเพปิ เอกวารํ สตฺถารํ ปพฺพชฺชํ ยาจิตฺวา นาลตฺถ, ตสฺมา กปฺปกํ ปกฺโกสาเปตฺวา เกเส ฉินฺทาเปตฺวา กาสายานิ อจฺฉาเทตฺวา สพฺพา ตา สากิยานิโย อาทาย เวสาลิํ คนฺตฺวา อานนฺทตฺเถเรน ทสพลํ ยาจาเปตฺวา, อฏฺฐครุธมฺมปฏิคฺคหเณน ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปทญฺจ อลตฺถฯ อิตรา ปน สพฺพาปิ เอกโต อุปสมฺปนฺนา อเหสุํฯ อยเมตฺถ สงฺเขโปฯ วิตฺถารโต ปเนตํ วตฺถุ ตตฺถ ตตฺถ ปาฬิยํ (จูฬว. 402) อาคตเมวฯ
เอวํ อุปสมฺปนฺนา ปน มหาปชาปติ สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ อถสฺสา สตฺถา ธมฺมํ เทเสสิฯ สา สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เสสา จ ปญฺจสตภิกฺขุนิโย นนฺทโกวาทปริโยสาเน (ม. นิ. 3.398) อรหตฺตํ ปาปุณิํสุฯ เอวํ ภิกฺขุนิสงฺเฆ สุปฺปติฏฺฐิเต ปุถุภูเต ตตฺถ ตตฺถ คามนิคมชนปทราชธานีสุ กุลิตฺถิโย กุลสุณฺหาโย กุลกุมาริกาโย พุทฺธสุพุทฺธตํ ธมฺมสุธมฺมตํ สงฺฆสุปฺปฏิปตฺติตญฺจ สุตฺวา, สาสเน อภิปฺปสนฺนา สํสาเร จ ชาตสํเวคา อตฺตโน สามิเก มาตาปิตโร ญาตเก จ อนุชานาเปตฺวา, สาสเน อุรํ ทตฺวา ปพฺพชิํสุฯ ปพฺพชิตฺวา จ สีลาจารสมฺปนฺนา สตฺถุโน จ เตสํ เถรานญฺจ สนฺติเก โอวาทํ ลภิตฺวา ฆเฏนฺติโย วายมนฺติโย นจิรสฺเสว อรหตฺตํ สจฺฉากํสุฯ
ตาหิ อุทานาทิวเสน ตตฺถ ตตฺถ ภาสิตา คาถา ปจฺฉา สงฺคีติการเกหิ เอกชฺฌํ กตฺวา เอกกนิปาตาทิวเสน สงฺคีติํ อาโรปยิํสุ ‘‘อิมา เถรีคาถา นามา’’ติฯ ตาสํ นิปาตาทิวิภาโค เหฏฺฐา วุตฺโตเยวฯ ตตฺถ นิปาเตสุ เอกกนิปาโต อาทิฯ ตตฺถปิ –
[1]
‘‘สุขํ สุปาหิ เถริเก, กตฺวา โจเฬน ปารุตา;
อุปสนฺโต หิ เต ราโค, สุกฺขฑากํว กุมฺภิย’’นฺติฯ –
อยํ คาถา อาทิฯ ตสฺสา กา อุปฺปตฺติ? อตีเต กิร อญฺญตรา กุลธีตา โกณาคมนสฺส ภควโต กาเล สาสเน อภิปฺปสนฺนา หุตฺวา สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา ทุติยทิวเส สาขามณฺฑปํ กาเรตฺวา วาลิกํ อตฺถริตฺวา อุปริ วิตานํ พนฺธิตฺวา คนฺธปุปฺผาทีหิ ปูชํ กตฺวา สตฺถุ กาลํ อาโรจาเปสิฯ สตฺถา ตตฺถ คนฺตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิฯ สา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน ปริวิสิตฺวา, ภควนฺตํ ภุตฺตาวิํ โอนีตปตฺตปาณิํ ติจีวเรน อจฺฉาเทสิฯ ตสฺสา ภควา อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิฯ สา ยาวตายุกํ ปุญฺญานิ กตฺวา อายุปริโยสาเน เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา เอกํ พุทฺธนฺตรํ สุคตีสุ เอว สํสรนฺตี กสฺสปสฺส ภควโต กาเล คหปติกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปตฺวา, สํสาเร ชาตสํเวคา สาสเน ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปชฺชิตฺวา วีสติวสฺสหสฺสานิ ภิกฺขุนิสีลํ ปูเรตฺวา, ปุถุชฺชนกาลกิริยํ กตฺวา, สคฺเค นิพฺพตฺตา เอกํ พุทฺธนฺตรํ สคฺคสมฺปตฺติํ อนุภวิตฺวา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท เวสาลิยํ ขตฺติยมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติฯ ตํ ถิรสนฺตสรีรตาย เถริกาติ โวหริํสุฯ สา วยปฺปตฺตา กุลปฺปเทสาทินา สมานชาติกสฺส ขตฺติยกุมารสฺส มาตาปิตูหิ ทินฺนา ปติเทวตา หุตฺวา วสนฺตี สตฺถุ เวสาลิคมเน สาสเน ปฏิลทฺธสทฺธา อุปาสิกา หุตฺวา, อปรภาเค มหาปชาปติโคตมีเถริยา สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปพฺพชฺชาย รุจิํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ สามิกสฺสาโรเจสิฯ สามิโก นานุชานาติฯ สา ปน กตาธิการตาย ยถาสุตํ ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา รูปารูปธมฺเม ปริคฺคเหตฺวา วิปสฺสนํ อนุยุตฺตา วิหรติฯ
อเถกทิวสํ มหานเส พฺยญฺชเน ปจฺจมาเน มหตี อคฺคิชาลา อุฏฺฐหิฯ สา อคฺคิชาลา สกลภาชนํ ตฏตฏายนฺตํ ฌายติฯ
สา ตํ ทิสฺวา ตเทวารมฺมณํ กตฺวา สุฏฺฐุตรํ อนิจฺจตํ อุปฏฺฐหนฺตํ อุปธาเรตฺวา ตโต ตตฺถ ทุกฺขานิจฺจานตฺตตญฺจ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อนุกฺกเมน อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา อนาคามิผเล ปติฏฺฐหิฯ สา ตโต ปฏฺฐาย อาภรณํ วา อลงฺการํ วา น ธาเรติฯ สา สามิเกน ‘‘กสฺมา ตฺวํ, ภทฺเท, อิทานิ ปุพฺเพ วิย อาภรณํ วา อลงฺการํ วา น ธาเรสี’’ติ วุตฺตา อตฺตโน คิหิภาเว อภพฺพภาวํ อาโรเจตฺวา ปพฺพชฺชํ อนุชานาเปสิฯ โส วิสาโข อุปาสโก วิย ธมฺมทินฺนํ มหตา ปริหาเรน มหาปชาปติโคตมิยา สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘อิมํ, อยฺเย, ปพฺพาเชถา’’ติ อาหฯ อถ มหาปชาปติโคตมี ตํ ปพฺพาเชตฺวา อุปสมฺปาเทตฺวา วิหารํ เนตฺวา สตฺถารํ ทสฺเสสิฯ สตฺถาปิสฺสา ปกติยา ทิฏฺฐารมฺมณเมว วิภาเวนฺโต ‘‘สุขํ สุปาหี’’ติ คาถมาหฯ
ตตฺถ สุขนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโสฯ สุปาหีติ อาณตฺติวจนํฯ เถริเกติ อามนฺตนวจนํฯ กตฺวา โจเฬน ปารุตาติ อปฺปิจฺฉตาย นิโยชนํฯ อุปสนฺโต หิ เต ราโคติ ปฏิปตฺติกิตฺตนํฯ สุกฺขฑากํวาติ อุปสเมตพฺพสฺส กิเลสสฺส อสารภาวนิทสฺสนํฯ กุมฺภิยนฺติ ตทาธารสฺส อนิจฺจตุจฺฉาทิภาวนิทสฺสนํฯ
สุขนฺติ เจตํ อิฏฺฐาธิวจนํฯ สุเขน นิทุกฺขา หุตฺวาติ อตฺโถฯ สุปาหีติ นิปชฺชนิทสฺสนญฺเจตํ จตุนฺนํ อิริยาปถานํ, ตสฺมา จตฺตาโรปิ อิริยาปเถ สุเขเนว กปฺเปหิ สุขํ วิหราติ อตฺโถฯ เถริเกติ อิทํ ยทิปิ ตสฺสา นามกิตฺตนํ, ปจุเรน อนฺวตฺถสญฺญาภาวโต ปน ถิเร สาสเน ถิรภาวปฺปตฺเต, ถิเรหิ สีลาทิธมฺเมหิ สมนฺนาคเตติ อตฺโถฯ กตฺวา โจเฬน ปารุตาติ ปํสุกูลโจเฬหิ จีวรํ กตฺวา อจฺฉาทิตสรีรา ตํ นิวตฺถา เจว ปารุตา จฯ อุปสนฺโต หิ เต ราโคติ หิ-สทฺโท เหตฺวตฺโถฯ ยสฺมา ตว สนฺตาเน อุปฺปชฺชนกกามราโค อุปสนฺโต อนาคามิมคฺคญาณคฺคินา ทฑฺโฒ, อิทานิ ตทวเสสํ ราคํ อคฺคมคฺคญาณคฺคินา ทเหตฺวา สุขํ สุปาหีติ อธิปฺปาโยฯ
สุกฺขฑากํว กุมฺภิยนฺติ ยถา ตํ ปกฺเก ภาชเน อปฺปกํ ฑากพฺยญฺชนํ มหติยา อคฺคิชาลาย ปจฺจมานํ ฌายิตฺวา สุสฺสนฺตํ วูปสมฺมติ, ยถา วา อุทกมิสฺเส ฑากพฺยญฺชเน อุทฺธนํ อาโรเปตฺวา ปจฺจมาเน อุทเก วิชฺชมาเน ตํ จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายติ, อุทเก ปน ฉินฺเน อุปสนฺตเมว โหติ, เอวํ ตว สนฺตาเน กามราโค อุปสนฺโต, อิตรมฺปิ วูปสเมตฺวา สุขํ สุปาหีติฯ
เถรี อินฺทฺริยานํ ปริปากํ คตตฺตา สตฺถุ เทสนาวิลาเสน จ คาถาปริโยสาเน สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี 2.1.26-30)ฯ
‘‘โกณาคมนพุทฺธสฺส, มณฺฑโป การิโต มยา;
ธุวํ ติจีวรํทาสิํ, พุทฺธสฺส โลกพนฺธุโนฯ
‘‘ยํ ยํ ชนปทํ ยามิ, นิคเม ราชธานิโย;
สพฺพตฺถ ปูชิโต โหมิ, ปุญฺญกมฺมสฺสิทํ ผลํฯ
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;
นาคีว พนฺธนํ เฉตฺวา, วิหรามิ อนาสวาฯ
‘‘สฺวาคตํ วต เม อาสิ, พุทฺธเสฏฺฐสฺส สนฺติเก;
ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํฯ
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส, วิโมกฺขาปิ จ อฏฺฐิเม;
ฉฬภิญฺญา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา เถรี อุทาเนนฺตี ตเมว คาถํ อภาสิ, เตนายํ คาถา ตสฺสา เถริยา คาถา อโหสิฯ ตตฺถ เถริยา วุตฺตคาถาย อนวเสโส ราโค ปริคฺคหิโต อคฺคมคฺเคน ตสฺส วูปสมสฺส อธิปฺเปตตฺตาฯ ราควูปสเมเนว เจตฺถ สพฺเพสมฺปิ กิเลสานํ วูปสโม วุตฺโตติ ทฏฺฐพฺพํ ตเทกฏฺฐตาย สพฺเพสํ กิเลสธมฺมานํ วูปสมสิทฺธิโตฯ ตถา หิ วุจฺจติ –
‘‘อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาหิ, โย โมโห สหโช มโต;
ปหาเนกฏฺฐภาเวน, ราเคน สรโณ หิ โส’’ติฯ
ยถา เจตฺถ สพฺเพสํ สํกิเลสานํ วูปสโม วุตฺโต, เอวํ สพฺพตฺถาปิ เตสํ วูปสโม วุตฺโตติ เวทิตพฺพํฯ ปุพฺพภาเค ตทงฺควเสน, สมถวิปสฺสนากฺขเณ วิกฺขมฺภนวเสน, มคฺคกฺขเณ สมุจฺเฉทวเสน, ผลกฺขเณ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน วูปสมสิทฺธิโตฯ
เตน จตุพฺพิธสฺสาปิ ปหานสฺส สิทฺธิ เวทิตพฺพา ฯ ตตฺถ ตทงฺคปฺปหาเนน สีลสมฺปทาสิทฺธิ, วิกฺขมฺภนปหาเนน สมาธิสมฺปทาสิทฺธิ, อิตเรหิ ปญฺญาสมฺปทาสิทฺธิ ทสฺสิตา โหติ ปหานาภิสมโยปสิชฺฌนโตฯ ยถา ภาวนาภิสมยํ สาเธติ ตสฺมิํ อสติ ตทภาวโต, ตถา สจฺฉิกิริยาภิสมยํ ปริญฺญาภิสมยญฺจ สาเธติ เอวาติฯ จตุราภิสมยสิทฺธิยา ติสฺโส สิกฺขา, ปฏิปตฺติยา ติวิธกลฺยาณตา, สตฺตวิสุทฺธิโย จ ปริปุณฺณา อิมาย คาถาย ปกาสิตา โหนฺตีติ เวทิตพฺพํฯ อญฺญตราเถรี อปญฺญาตา นามโคตฺตาทิวเสน อปากฏา, เอกา เถรี ลกฺขณสมฺปนฺนา ภิกฺขุนี อิมํ คาถํ อภาสีติ อธิปฺปาโยฯ
อญฺญตราเถรีคาถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ
2. มุตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา
[2]
‘‘มุตฺเต มุจฺจสฺสุ โยเคหิ, จนฺโท ราหุคฺคหา อิว;
วิปฺปมุตฺเตน จิตฺเตน, อนณา ภุญฺช ปิณฺฑก’’นฺติฯ –
อยํ มุตฺตาย นาม สิกฺขมานาย คาถาฯ อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปตฺวา เอกทิวสํ สตฺถารํ รถิยํ คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานสา ปญฺจปติฏฺฐิเตน วนฺทิตฺวา ปีติเวเคน สตฺถุ ปาทมูเล อวกุชฺชา นิปชฺชิฯ สา เตน ปุญฺญกมฺเมน เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา อปราปรํ สุคตีสุเยว สํสรนฺตี อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ พฺราหฺมณมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติ, มุตฺตาติสฺสา นามํ อโหสิฯ สา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตาย วีสติวสฺสกาเล มหาปชาปติโคตมิยา สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา สิกฺขมานาว หุตฺวา กมฺมฏฺฐานํ กถาเปตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรติฯ สา เอกทิวสํ ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เถรีนํ ภิกฺขุนีนํ วตฺตํ ทสฺเสตฺวา ทิวาฏฺฐานํ คนฺตฺวา รโห นิสินฺนา วิปสฺสนาย มนสิการํ อารภิฯ สตฺถา สุรภิคนฺธกุฏิยา นิสินฺโนว โอภาสํ วิสฺสชฺเชตฺวา ตสฺสา ปุรโต นิสินฺโน วิย อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ‘‘มุตฺเต มุจฺจสฺสุ โยเคหี’’ติ อิมํ คาถมาหฯ