เมนู

3. กงฺขาเรวตตฺเถรคาถาวณฺณนา

ปญฺญํ อิมํ ปสฺสาติ อายสฺมโต กงฺขาเรวตสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ เถโร ปทุมุตฺตรภควโต กาเล หํสวตีนคเร พฺราหฺมณมหาสาลกุเล นิพฺพตฺโตฯ เอกทิวสํ พุทฺธานํ ธมฺมเทสนากาเล เหฏฺฐา วุตฺตนเยน มหาชเนน สทฺธิํ วิหารํ คนฺตฺวา ปริสปริยนฺเต ฐิโต ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ ฌานาภิรตานํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปนฺตํ ทิสฺวา ‘‘มยาปิ อนาคเต เอวรูเปน ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา เทสนาวสาเน สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา เหฏฺฐา วุตฺตนเยน มหาสกฺการํ กตฺวา ภควนฺตํ อาห – ‘‘ภนฺเต, อหํ อิมินา อธิการกมฺเมน อญฺญํ สมฺปตฺติํ น ปตฺเถมิ, ยถา ปน โส ภิกฺขุ ตุมฺเหหิ อิโต สตฺตมทิวสมตฺถเก ฌายีนํ อคฺคฏฺฐาเน ฐปิโต, เอวํ อหมฺปิ อนาคเต เอกสฺส พุทฺธสฺส สาสเน ฌายีนํ อคฺโค ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนมกาสิฯ สตฺถา อนาคตํ โอโลเกตฺวา นิปฺผชฺชนภาวํ ทิสฺวา ‘‘อนาคเต กปฺปสตสหสฺสาวสาเน โคตโม นาม พุทฺโธ อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส สาสเน ตฺวํ ฌายีนํ อคฺโค ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากริตฺวา ปกฺกามิฯ

โส ยาวชีวํ กลฺยาณกมฺมํ กตฺวา กปฺปสตสหสฺสํ เทวมนุสฺเสสุ สํสริตฺวา อมฺหากํ ภควโต กาเล สาวตฺถินคเร มหาโภคกุเล นิพฺพตฺโต ปจฺฉาภตฺตํ ธมฺมสฺสวนตฺถํ คจฺฉนฺเตน มหาชเนน สทฺธิํ วิหารํ คนฺตฺวา ปริสปริยนฺเต ฐิโต ทสพลสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปทํ ลภิตฺวา กมฺมฏฺฐานํ กถาเปตฺวา ฌานปริกมฺมํ กโรนฺโต ฌานลาภี หุตฺวา ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ โส เยภุยฺเยน ทสพเลน สมาปชฺชิตพฺพสมาปตฺติํ สมาปชฺชนฺโต อโหรตฺตํ ฌาเนสุ จิณฺณวสี อโหสิฯ อถ นํ สตฺถา ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ฌายีนํ ยทิทํ กงฺขาเรวโต’’ติ (อ. นิ. 1.198, 204) ฌายีนํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปสิฯ วุตฺตมฺปิ เจตํ อปทาเน (อป. เถร 2.55.34-53) –

‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺเมสุ จกฺขุมา;

อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ นายโกฯ

‘‘สีหหนุ พฺรหฺมคิโร, หํสทุนฺทุภินิสฺสโน;

นาควิกฺกนฺตคมโน, จนฺทสูราธิกปฺปโภฯ

‘‘มหามติ มหาวีโร, มหาฌายี มหาพโล;

มหาการุณิโก นาโถ, มหาตมปนูทโนฯ

‘‘ส กทาจิ ติโลกคฺโค, เวเนยฺยํ วินยํ พหุํ;

ธมฺมํ เทเสสิ สมฺพุทฺโธ, สตฺตาสยวิทู มุนิฯ

‘‘ฌายิํ ฌานรตํ วีรํ, อุปสนฺตํ อนาวิลํ;

วณฺณยนฺโต ปริสติํ, โตเสสิ ชนตํ ชิโนฯ

‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, พฺราหฺมโณ เวทปารคู;

ธมฺมํ สุตฺวาน มุทิโต, ตํ ฐานมภิปตฺถยิํฯ

‘‘ตทา ชิโน วิยากาสิ, สงฺฆมชฺเฌ วินายโก;

มุทิโต โหหิ ตฺวํ พฺรหฺเม, ลจฺฉเส ตํ มโนรถํฯ

‘‘สตสหสฺสิโต กปฺเป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

โคตโม นาม โคตฺเตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติฯ

‘‘ตสฺส ธมฺเมสุ ทายาโท, โอรโส ธมฺมนิมฺมิโต;

เรวโต นาม นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวโกฯ

‘‘เตน กมฺเมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวติํสมคจฺฉหํฯ

‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, ชาโตหํ โกลิเย ปุเร;

ขตฺติเย กุลสมฺปนฺเน, อิทฺเธ ผีเต มหทฺธเนฯ

‘‘ยทา กปิลวตฺถุสฺมิํ, พุทฺโธ ธมฺมมเทสยิ;

ตทา ปสนฺโน สุคเต, ปพฺพชิํ อนคาริยํฯ

‘‘กงฺขา เม พหุลา อาสิ, กปฺปากปฺเป ตหิํ ตหิํ;

สพฺพํ ตํ วินยี พุทฺโธ, เทเสตฺวา ธมฺมมุตฺตมํฯ

‘‘ตโตหํ ติณฺณสํสาโร, ตทา ฌานสุเข รโต;

วิหรามิ ตทา พุทฺโธ, มํ ทิสฺวา เอตทพฺรวิฯ

‘‘ยา กาจิ กงฺขา อิธ วา หุรํ วา, สเวทิยา วา ปรเวทิยา วา;

เย ฌายิโน ตา ปชหนฺติ สพฺพา, อาตาปิโน พฺรหฺมจริยํ จรนฺตาฯ

‘‘สตสหสฺเส กตํ กมฺมํ, ผลํ ทสฺเสสิ เม อิธ;

สุมุตฺโต สรเวโคว, กิเลเส ฌาปยิํ มมฯ

‘‘ตโต ฌานรตฺตํ ทิสฺวา, พุทฺโธ โลกนฺตคู มุนิ;

ฌายีนํ ภิกฺขูนํ อคฺโค, ปญฺญาเปสิ มหามติฯ

‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;

นาโคว พนฺธนํ เฉตฺวา, วิหรามิ อนาสโวฯ

‘‘สฺวาคตํ วต เม อาสิ, มม พุทฺธสฺส สนฺติเก;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํฯ

‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส, วิโมกฺขาปิ จ อฏฺฐิเม;

ฉฬภิญฺญา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

ตถา กตกิจฺโจ ปนายํ มหาเถโร ปุพฺเพ ทีฆรตฺตํ อตฺตโน กงฺขาปกตจิตฺตตํ อิทานิ สพฺพโส วิคตกงฺขตญฺจ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ‘‘อโห นูน มยฺหํ สตฺถุโน เทสนานุภาโว, เตเนตรหิ เอวํ วิคตกงฺโข อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต ชาโต’’ติ สญฺชาตพหุมาโน ภควโต ปญฺญํ ปสํสนฺโต ‘‘ปญฺญํ อิมํ ปสฺสา’’ติ อิมํ คาถมาหฯ

[3] ตตฺถ ปญฺญนฺติ ปกาเร ชานาติ, ปกาเรหิ ญาเปตีติ จ ปญฺญาฯ เวเนยฺยานํ อาสยานุสยจริยาธิมุตฺติอาทิปฺปกาเร ธมฺมานํ กุสลาทิเก ขนฺธาทิเก จ เทเสตพฺพปฺปกาเร ชานาติ, ยถาสภาวโต ปฏิวิชฺฌติ, เตหิ จ ปกาเรหิ ญาเปตีติ อตฺโถฯ สตฺถุ เทสนาญาณญฺหิ อิธาธิปฺเปตํ, เตนาห ‘‘อิม’’นฺติฯ ตญฺหิ อตฺตนิ สิทฺเธน เทสนาพเลน นยคฺคาหโต ปจฺจกฺขํ วิย อุปฏฺฐิตํ คเหตฺวา ‘‘อิม’’นฺติ วุตฺตํฯ ยทคฺเคน วา สตฺถุ เทสนาญาณํ สาวเกหิ นยโต คยฺหติ, ตทคฺเคน อตฺตโน วิสเย ปฏิเวธญาณมฺปิ นยโต คยฺหเตวฯ เตนาห อายสฺมา ธมฺมเสนาปติ – ‘‘อปิจ เม, ภนฺเต, ธมฺมนฺวโย วิทิโต’’ติ (ที. นิ. 2.146; 3.143)ฯ ปสฺสาติ วิมฺหยปฺปตฺโต อนิยมโต อาลปติ อตฺตโนเยว วา จิตฺตํ, ยถาห ภควา อุทาเนนฺโต – ‘‘โลกมิมํ ปสฺส; ปุถู อวิชฺชาย ปเรตํ ภูตํ ภูตรตํ ภวา อปริมุตฺต’’นฺติ (อุทา. 30)ฯ ตถาคตานนฺติ ตถา อาคมนาทิอตฺเถน ตถาคตานํฯ ตถา อาคโตติ หิ ตถาคโต, ตถา คโตติ ตถาคโต, ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต, ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต, ตถทสฺสิตาย ตถาคโต, ตถวาทิตาย ตถาคโต, ตถาการิตาย ตถาคโต, อภิภวนฏฺเฐน ตถาคโตติ เอวํ อฏฺฐหิ การเณหิ ภควา ตถาคโตฯ

ตถาย อาคโตติ ตถาคโต, ตถาย คโตติ ตถาคโต, ตถลกฺขณํ คโตติ ตถาคโต, ตถานิ อาคโตติ ตถาคโต, ตถาวิโธติ ตถาคโต, ตถา ปวตฺติโตติ ตถาคโต, ตเถหิ อาคโตติ ตถาคโต , ตถา คตภาเวน ตถาคโตติ เอวมฺปิ อฏฺฐหิ การเณหิ ภควา ตถาคโตติ อยเมตฺถ สงฺเขโปฯ วิตฺถาโร ปน ปรมตฺถทีปนิยา อุทานฏฺฐกถาย (อุทา. อฏฺฐ. 18) อิติวุตฺตกฏฺฐกถาย (อิติวุ. อฏฺฐ. 38) จ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพฯ

อิทานิ ตสฺสา ปญฺญาย อสาธารณวิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘อคฺคิ ยถา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ยถา อคฺคีติ อุปมาวจนํฯ ยถาติ ตสฺส อุปมาภาวทสฺสนํฯ ปชฺชลิโตติ อุปเมยฺเยน สมฺพนฺธทสฺสนํฯ นิสีเถติ กิจฺจกรณกาลทสฺสนํฯ อยญฺเหตฺถ อตฺโถ – ยถา นาม นิสีเถ รตฺติยํ จตุรงฺคสมนฺนาคเต อนฺธกาเร วตฺตมาเน อุนฺนเต ฐาเน ปชฺชลิโต อคฺคิ ตสฺมิํ ปเทเส ตยคตํ วิธมนฺตํ ติฏฺฐติ, เอวเมว ตถาคตานํ อิมํ เทสนาญาณสงฺขาตํ สพฺพโส เวเนยฺยานํ สํสยตมํ วิธมนฺตํ ปญฺญํ ปสฺสาติฯ ยโต เทสนาวิลาเสน สตฺตานํ ญาณมยํ อาโลกํ เทนฺตีติ อาโลกทาฯ ปญฺญามยเมว จกฺขุํ ททนฺตีติ จกฺขุททาฯ ตทุภยมฺปิ กงฺขาวินยปทฏฺฐานเมว กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘เย อาคตานํ วินยนฺติ กงฺข’’นฺติ อาห, เย ตถาคตา อตฺตโน สนฺติกํ อาคตานํ อุปคตานํ เวเนยฺยานํ ‘‘อโหสิํ นุ โข อหมตีตมทฺธาน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตํ (ม. นิ. 1.18; สํ. นิ. 2.20) โสฬสวตฺถุกํ, ‘‘พุทฺเธ กงฺขติ ธมฺเม กงฺขตี’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ (ธ. ส. 1008) อฏฺฐวตฺถุกญฺจ กงฺขํ วิจิกิจฺฉํ วินยนฺติ เทสนานุภาเวน อนวเสสโต วิธมนฺติ วิทฺธํเสนฺติฯ วินยกุกฺกุจฺจสงฺขาตา ปน กงฺขา ตพฺพินเยเนว วินีตา โหนฺตีติฯ

อปโร นโย – ยถา อคฺคิ นิสีเถ รตฺติภาเค ปชฺชลิโต ปฏุตรชาโล สมุชฺชลํ อุจฺจาสเน ฐิตานํ โอภาสทานมตฺเตน อนฺธการํ วิธมิตฺวา สมวิสมํ วิภาเวนฺโต อาโลกทโท โหติฯ อจฺจาสนฺเน ปน ฐิตานํ ตํ สุปากฏํ กโรนฺโต จกฺขุกิจฺจกรณโต จกฺขุทโท นาม โหติ, เอวเมว ตถาคโต อตฺตโน ธมฺมกายสฺส ทูเร ฐิตานํ อกตาธิการานํ ปญฺญาปชฺโชเตน โมหนฺธการํ วิธมิตฺวา กายวิสมาทิสมวิสมํ วิภาเวนฺโต อาโลกทา ภวนฺติ, อาสนฺเน ฐิตานํ ปน กตาธิการานํ ธมฺมจกฺขุํ อุปฺปาเทนฺโต จกฺขุททา ภวนฺติฯ

เย เอวํภูตา อตฺตโน วจีโคจรํ อาคตานํ มาทิสานมฺปิ กงฺขาพหุลานํ กงฺขํ วินยนฺติ อริยมคฺคสมุปฺปาทเนน วิธมนฺติ, เตสํ ตถาคตานํ ปญฺญํ ญาณาติสยํ ปสฺสาติ โยชนาฯ เอวมยํ เถรสฺส อตฺตโน กงฺขาวิตรณปฺปกาสเนน อญฺญาพฺยากรณคาถาปิ โหติฯ อยญฺหิ เถโร ปุถุชฺชนกาเล กปฺปิเยปิ กุกฺกุจฺจโก หุตฺวา กงฺขาพหุลตาย ‘‘กงฺขาเรวโต’’ติ ปญฺญาโต, ปจฺฉา ขีณาสวกาเลปิ ตเถว โวหรยิตฺถฯ เตนาห – ‘‘อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา กงฺขาเรวโต คาถํ อภาสิตฺถา’’ติฯ ตํ วุตฺตตฺถเมวฯ

กงฺขาเรวตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

4. ปุณฺณตฺเถรคาถาวณฺณนา

สพฺภิเรว สมาเสถาติ อายสฺมโต ปุณฺณตฺเถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยํ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ทสพลสฺส อุปฺปตฺติโต ปุเรตรเมว หํสวตีนคเร พฺราหฺมณมหาสาลกุเล นิพฺพตฺโต อนุกฺกเมน วิญฺญุตํ ปตฺโต สตฺถริ โลเก อุปฺปชฺชนฺเต เอกทิวสํ พุทฺธานํ ธมฺมเทสนากาเล เหฏฺฐา วุตฺตนเยน มหาชเนน สทฺธิํ วิหารํ คนฺตฺวา ปริสปริยนฺเต นิสีทิตฺวา ธมฺมํ สุณนฺโต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ ธมฺมกถิกานํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปนฺตํ ทิสฺวา ‘‘มยาปิ อนาคเต เอวรูเปน ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา เทสนาวสาเน วุฏฺฐิตาย ปริสาย สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา นิมนฺเตตฺวา เหฏฺฐา วุตฺตนเยเนว มหาสกฺการํ กตฺวา ภควนฺตํ เอวมาห – ‘‘ภนฺเต, อหํ อิมินา อธิการกมฺเมน นาญฺญํ สมฺปตฺติํ ปตฺเถมิฯ ยถา ปน โส ภิกฺขุ อิโต สตฺตมทิวสมตฺถเก ธมฺมกถิกานํ อคฺคฏฺฐาเน ฐปิโต, เอวํ อหมฺปิ อนาคเต เอกสฺส พุทฺธสฺส สาสเน ธมฺมกถิกานํ ภิกฺขูนํ อคฺโค ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ อกาสิฯ สตฺถา อนาคตํ โอโลเกตฺวา ตสฺส ปตฺถนาย สมิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา ‘‘อนาคเต กปฺปสตสหสฺสมตฺถเก โคตโม นาม พุทฺโธ อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส สาสเน ตฺวํ ปพฺพชิตฺวา ธมฺมกถิกานํ อคฺโค ภวิสฺสสี’’ติ พฺยากาสิฯ