เมนู

สุขิตาติ สญฺชาตสุขา สุขปฺปตฺตาฯ เอเตน สรีรทุกฺขาภาวํ วทติฯ จิตฺตทุกฺขาภาเวน จสฺสา ปโมทาปตฺติ, สรีรทุกฺขาภาเวน อโรคตาฯ เตนาห ‘‘สมฺปโมทามนามยา’’ติฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ อยญฺจ อตฺโถ ตทา อตฺตนา เทวตาย จ กถิตนิยาเมเนว สงฺคีติกาเล อายสฺมตา นารเทน ธมฺมสงฺคาหกานํ อาโรจิโต, เต จ ตํ ตเถว สงฺคหํ อาโรปยิํสูติฯ

มลฺลิกาวิมานวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

9. วิสาลกฺขิวิมานวณฺณนา

กา นาม ตฺวํ วิสาลกฺขีติ วิสาลกฺขิวิมานํฯ ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควติ ปรินิพฺพุเต รญฺญา อชาตสตฺตุนา อตฺตนา ปฏิลทฺธา ภควตา สรีรธาตุโย คเหตฺวา ราชคเห ถูเป จ มเห จ กเต ราชคหวาสินี เอกา มาลาการธีตา สุนนฺทา นาม อุปาสิกา อริยสาวิกา โสตาปนฺนา ปิตุํ เคหโต เปสิตํ พหุํ มาลญฺจ คนฺธญฺจ เปเสตฺวา เทวสิกํ เจติเย ปูชํ กาเรสิ, อุโปสถทิวเสสุ ปน สยเมว คนฺตฺวา ปูชํ อกาสิฯ สา อปรภาเค อญฺญตเรน โรเคน ผุฏฺฐา กาลํ กตฺวา สกฺกสฺส เทวรญฺโญ ปริจาริกา หุตฺวา นิพฺพตฺติฯ อเถกทิวสํ สา สกฺเกน เทวานมินฺเทน สห จิตฺตลตาวนํ ปาวิสิฯ ตตฺถ จ อญฺญาสํ เทวตานํ ปภา ปุปฺผาทีนํ ปภาหิ ปฏิหตา หุตฺวา วิจิตฺตวณฺณา โหติ, สุนนฺทาย ปน ปภา ตาหิ อนภิภูตา สภาเวเนว อฏฺฐาสิฯ ตํ ทิสฺวา สกฺโก เทวราชา ตาย กตสุจริตํ ญาตุกาโม อิมาหิ คาถาหิ ปุจฺฉิ –

[666]

‘‘กา นาม ตฺวํ วิสาลกฺขิ, รมฺเม จิตฺตลตาวเน;

สมนฺตา อนุปริยาสิ, นารีคณปุรกฺขตาฯ

[667]

‘‘ยทา เทวา ตาวติํสา, ปวิสนฺติ อิมํ วนํ;

สโยคฺคา สรถา สพฺเพ, จิตฺรา โหนฺติ อิธาคตาฯ

[668]

‘‘ตุยฺหญฺจ อิธ ปตฺตาย, อุยฺยาเน วิจรนฺติยา;

กาเย น ทิสฺสตี จิตฺตํ, เกน รูปํ ตเวทิสํ;

เทวเต ปุจฺฉิตาจิกฺข, กิสฺส กมฺมสฺสิทํ ผล’’นฺติฯ

[666] ตตฺถ กา นาม ตฺวนฺติ ปุริมตฺตภาเว กา นาม กีทิสี นาม ตฺวํ, ยตฺถ กเตน สุจริเตน อยํ เต อีทิสี อานุภาวสมฺปตฺติ อโหสีติ อธิปฺปาโยฯ วิสาลกฺขีติ วิปุลโลจเนฯ

[667] ยทาติ ยสฺมิํ กาเลฯ อิมํ วนนฺติ อิมํ จิตฺตลตานามกํ อุปวนํฯ จิตฺรา โหนฺตีติ อิมสฺมิํ จิตฺตลตาวเน วิจิตฺตปภาสํสคฺเคน อตฺตโน สรีรวตฺถาลงฺการาทีนํ ปกติโอภาสโตปิ วิสิฏฺฐภาวปฺปตฺติยา วิจิตฺราการา โหนฺติฯ อิธาคตาติ อิธ อาคตา สมฺปตฺตา, อิธ วา อาคมนเหตุฯ

[668] อิธ ปตฺตายาติ อิมํ ฐานํ สมฺปตฺตาย อุปคตายฯ เกน รูปํ ตเวทิสนฺติ เกน การเณน ตว รูปํ สรีรํ เอทิสํ เอวรูปํ, จิตฺตลตาวนสฺส ปภํ อภิภวนฺตํ ติฏฺฐตีติ อธิปฺปาโยฯ

เอวํ สกฺเกน ปุฏฺฐา สา เทวตา อิมาหิ คาถาหิ พฺยากาสิ –

[669]

‘‘เยน กมฺเมน เทวินฺท, รูปํ มยฺหํ คตี จ เม;

อิทฺธิ จ อานุภาโว จ, ตํ สุโณหิ ปุรินฺททฯ

[670]

‘‘อหํ ราชคเห รมฺเม, สุนนฺทา นามุปาสิกา;

สทฺธา สีเลน สมฺปนฺนา, สํวิภาครตา สทาฯ

[671]

‘‘อจฺฉาทนญฺจ ภตฺตญฺจ, เสนาสนํ ปทีปิยํ;

อทาสิํ อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสาฯ

[672]

‘‘จาตุทฺทสิํ ปญฺจทสิํ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺฐมี;

ปาฏิหาริยปกฺขญฺจ, อฏฺฐงฺคสุสมาคตํฯ

[673]

‘‘อุโปสถํ อุปวสิสฺสํ, สทา สีเลสุ สํวุตา;

สญฺญมา สํวิภาคา จ, วิมานํ อาวสามหํฯ

[674]

‘‘ปาณาติปาตา วิรตา, มุสาวาทา จ สญฺญตา;

เถยฺยา จ อติจารา จ, มชฺชปานา จ อารกาฯ

[675]

‘‘ปญฺจสิกฺขาปเท รตา, อริยสจฺจาน โกวิทา;

อุปาสิกา จกฺขุมโต, โคตมสฺส ยสสฺสิโนฯ

[676]

‘‘ตสฺสา เม ญาติกุลา ทาสี, สทา มาลาภิหารติ;

ตาหํ ภควโต ถูเป, สพฺพเมวาภิโรปยิํฯ

[677]

‘‘อุโปสเถ จหํ คนฺตฺวา, มาลาคนฺธวิเลปนํ;

ถูปสฺมิํ อภิโรเปสิํ, ปสนฺนา เสหิ ปาณิภิฯ

[678]

‘‘เตน กมฺเมน เทวินฺท, รูปํ มยฺหํ คตี จ เม;

อิทฺธิ จ อานุภาโว จ, ยํ มาลํ อภิโรปยิํฯ

[679]

‘‘ยญฺจ สีลวตี อาสิํ, น ตํ ตาว วิปจฺจติ;

อาสา จ ปน เม เทวินฺท, สกทาคามินี สิย’’นฺติฯ

[669] ตตฺถ คตีติ อยํ เทวคติ, นิพฺพตฺติ วาฯ อิทฺธีติ อยํ เทวิทฺธิ, อธิปฺปายสมิชฺฌนํ วาฯ อานุภาโวติ ปภาโวฯ ปุรินฺททาติ สกฺกํ อาลปติฯ โส หิ ปุเร ทานํ อทาสีติ ‘‘ปุรินฺทโท’’ติ วุจฺจติฯ

[676] ญาติกุลาติ ปิตุ เคหํ สนฺธาย วทติฯ สทา มาลาภิหารตีติ สทา สพฺพกาลํ ทิวเส ทิวเส ญาติกุลโต ทาสิยา ปุปฺผํ มยฺหํ อภิหรียติฯ สพฺพเมวาภิโรปยินฺติ มยฺหํ ปิฬนฺธนตฺถาย ปิตุเคหโต อาหฏํ มาลํ อญฺญญฺจ คนฺธาทิํ สพฺพเมว อตฺตนา อปริภุญฺชิตฺวา ภควโต ถูเป ปูชนวเสน อภิโรปยิํ ปูชํ กาเรสิํฯ

[677-8] อุโปสเถ จหํ คนฺตฺวาติ อุโปสถทิวเส อหเมว ถูปฏฺฐานํ คนฺตฺวาฯ ยํ มาลํ อภิโรปยินฺติ ยํ ตทา ภควโต ถูเป มาลาคนฺธาภิโรปนํ กตํ, เตน กมฺเมนาติ โยชนาฯ

[679] น ตํ ตาว วิปจฺจตีติ ยํ สีลวตี อาสิํ, ตํ สีลรกฺขณํ ตํ รกฺขิตํ สีลํ ปูชามยปุญฺญสฺส พลวภาเวน อลทฺโธกาสํ น ตาว วิปจฺจติ , น วิปจฺจิตุํ อารทฺธํ, อปรสฺมิํเยว อตฺตภาเว ตสฺส วิปาโกติ อตฺโถฯ อาสา จ ปน เม เทวินฺท, สกทาคามินี สิยนฺติ ‘‘กถํ นุ โข อหํ สกทาคามินี ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนา จ เม เทวินฺท, อริยธมฺมวิสยาว, น ภววิเสสวิสยาฯ สา ปน สปฺปิมณฺฑํ อิจฺฉโต ทธิโต ปจิตํ วิย อนิปฺผาทินีติ ทสฺเสติฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ

อิมํ ปน อตฺถํ สกฺโก เทวานมินฺโท อตฺตนา จ ตาย เทวธีตาย จ วุตฺตนิยาเมเนว อายสฺมโต วงฺคีสตฺเถรสฺส อาโรเจสิฯ อายสฺมา วงฺคีโส สงฺคีติกาเล ธมฺมสงฺคาหกานํ มหาเถรานํ อาโรเจสิ, เต จ ตํ ตเถว สงฺคีติํ อาโรปยิํสูติฯ

วิสาลกฺขิวิมานวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

10. ปาริจฺฉตฺตกวิมานวณฺณนา

ปาริจฺฉตฺตเก โกวิฬาเรติ ปาริจฺฉตฺตกวิมานํฯ ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเนฯ เตน สมเยน สาวตฺถิวาสี อญฺญตโร อุปาสโก ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา, สฺวาตนาย นิมนฺเตตฺวา, อตฺตโน เคหทฺวาเร มหนฺตํ มณฺฑปํ สชฺเชตฺวา สาณิปาการํ ปริกฺขิปิตฺวา อุปริ วิตานํ พนฺธิตฺวา ธชปฏากาทโย อุสฺสาเปตฺวา นานาวิราควณฺณานิ วตฺถานิ คนฺธทามมาลาทามานิ จ โอลมฺเพตฺวา สิตฺตสมฺมฏฺเฐ ปเทเส อาสนานิ ปญฺญาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรเจสิฯ อถ ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เทววิมานํ วิย อลงฺกตปฏิยตฺตํ มณฺฑปํ ปวิสิตฺวา สหสฺสรํสี วิย อณฺณวกุจฺฉิํ โอภาสยมาโน ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิฯ อุปาสโก คนฺธปุปฺผธูมทีเปหิ ภควนฺตํ ปูเชสิฯ