เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 52.ปรามาสสัมปยุตตทุกะ 7.ปัญหาวาร
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่สัมปยุตด้วยปรามาสเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์โดยอธิปติปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยปรามาสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่วิปปยุตจากปรามาส
โดยอธิปติปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลยินดีเพลิดเพลินขันธ์ที่สัมปยุตด้วยปรามาสให้
เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้นให้เป็นอารมณ์
อย่างหนักแน่น ราคะที่วิปปยุตจากปรามาสจึงเกิดขึ้น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่สัมปยุตด้วยปรามาสเป็นปัจจัยแก่จิตต-
สมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยปรามาสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยปรามาส
และที่วิปปยุตจากปรามาสโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่
อธิบดีธรรมที่สัมปยุตด้วยปรามาสเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูป
โดยอธิปติปัจจัย (3)
[67] สภาวธรรมที่วิปปยุตจากปรามาสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่วิปปยุตจาก
ปรามาสโดยอธิปติปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว
พิจารณากุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ยินดีเพลิดเพลิน เพราะทำความ
ยินดีเพลิดเพลินกุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะที่วิปปยุตจากปรามาส
จึงเกิดขึ้น บุคคลพิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว ฯลฯ ออกจากฌาน ฯลฯ
พระอริยะออกจากมรรคแล้วพิจารณามรรคให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ฯลฯ
พิจารณาผล ฯลฯ พิจารณานิพพาน ฯลฯ นิพพานเป็นปัจจัยแก่โคตรภู โวทาน
มรรคและผลโดยอธิปติปัจจัย บุคคลยินดีเพลิดเพลินจักษุ ฯลฯ หทัยวัตถุ และ
ขันธ์ที่วิปปยุตจากปรามาสให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำความยินดีเพลิด
เพลินจักษุเป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะที่วิปปยุตจากปรามาส
จึงเกิดขึ้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :469 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 52.ปรามาสสัมปยุตตทุกะ 7.ปัญหาวาร
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่วิปปยุตจากปรามาสเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่วิปปยุตจากปรามาสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยปรามาส
โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทาน
ศีล รักษาอุโบสถแล้ว ยินดีเพลิดเพลินกุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินกุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะที่สัมปยุต
ด้วยปรามาสจึงเกิดขึ้น บุคคลพิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว ฯลฯ ออกจากฌาน
ฯลฯ ยินดีเพลิดเพลินจักษุ ฯลฯ หทัยวัตถุ และขันธ์ที่วิปปยุตจากปรามาสให้
เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินจักษุเป็นต้นนั้นให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะที่สัมปยุตด้วยปรามาสจึงเกิดขึ้น (2)

อนันตรปัจจัยและสมนันตรปัจจัย
[68] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยปรามาสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยปรามาสโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยปรามาสซึ่งเกิดก่อน ๆ
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยปรามาสซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยปรามาสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่วิปปยุตจากปรามาส
โดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยปรามาสเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะโดย
อนันตรปัจจัย (2)
[69] สภาวธรรมที่วิปปยุตจากปรามาสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่วิปปยุต
จากปรามาสโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่วิปปยุตจากปรามาสซึ่งเกิดก่อน ๆ
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่วิปปยุตจากปรามาสซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย อนุโลม
ฯลฯ เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอนันตรปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่วิปปยุตจากปรามาสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยปรามาส
โดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยปรามาสโดย
อนันตรปัจจัย เป็นปัจจัยโดยสมนันตรปัจจัย (2)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :470 }