เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 50.ปรามาสทุกะ 7.ปัญหาวาร
โวทาน มรรค และผลโดยอธิปติปัจจัย บุคคลยินดีเพลิดเพลินจักษุ ฯลฯ หทัยวัตถุ
และขันธ์ที่ไม่เป็นปรามาสให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำความยินดีเพลิด
เพลินจักษุเป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่ไม่เป็นปรามาสเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นปรามาสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นปรามาสโดยอธิปติ-
ปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ ฯลฯ
พิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว ฯลฯ ออกจากฌาน ฯลฯ ยินดีเพลิดเพลินจักษุ
ฯลฯ หทัยวัตถุและขันธ์ที่ไม่เป็นปรามาสให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำ
ความยินดีเพลิดเพลินจักษุเป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่ไม่เป็นปรามาสเป็นปัจจัยแก่ปรามาสโดย
อธิปติปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นปรามาสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นปรามาสและที่ไม่
เป็นปรามาสโดยอธิปติปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ ฯลฯ
พิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว ฯลฯ ออกจากฌาน ฯลฯ ยินดีเพลิดเพลินจักษุ
ฯลฯ หทัยวัตถุและขันธ์ที่ไม่เป็นปรามาสให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำ
ความยินดีเพลิดเพลินจักษุเป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ปรามาสและ
สัมปยุตตขันธ์จึงเกิดขึ้น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่ไม่เป็นปรามาสเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
ปรามาส และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (3)
สภาวธรรมที่เป็นปรามาสและที่ไม่เป็นปรามาสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
ปรามาสโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ เพราะทำปรามาส
และสัมปยุตตขันธ์ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ปรามาสจึงเกิดขึ้น มี 3 วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :449 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 50.ปรามาสทุกะ 7.ปัญหาวาร
อนันตรปัจจัย
[23] สภาวธรรมที่เป็นปรามาสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นปรามาสโดย
อนันตรปัจจัย ได้แก่ ปรามาสที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ปรามาสที่เกิดหลัง ๆ
โดยอนันตรปัจจัย (พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) ปรามาสที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์
ที่ไม่เป็นปรามาสซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย ปรามาสเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะโดย
อนันตรปัจจัย (พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) ปรามาสที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ปรามาส
และสัมปยุตตขันธ์ที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย (3)
[24] สภาวธรรมที่ไม่เป็นปรามาสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นปรามาส
โดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่เป็นปรามาสซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่
เป็นปรามาสซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย ฯลฯ อนุโลมเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ
โดยอนันตรปัจจัย (พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) ขันธ์ที่ไม่เป็นปรามาสซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็น
ปัจจัยแก่ปรามาสที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ปรามาส
โดยอนันตรปัจจัย (พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) ขันธ์ที่ไม่เป็นปรามาสซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็น
ปัจจัยแก่ปรามาสและสัมปยุตตขันธ์ที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย อาวัชชนจิต
เป็นปัจจัยแก่ปรามาสและสัมปยุตตขันธ์โดยอนันตรปัจจัย (3)
[25] สภาวธรรมที่เป็นปรามาสและที่ไม่เป็นปรามาสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นปรามาสโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ปรามาสและสัมปยุตตขันธ์ที่เกิดก่อน ๆ
เป็นปัจจัยแก่ปรามาสที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย (พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) ปรามาส
และสัมปยุตตขันธ์ที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่เป็นปรามาสซึ่งเกิดหลัง ๆ
โดยอนันตรปัจจัย ปรามาสและสัมปยุตตขันธ์เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะโดยอนันตรปัจจัย
(พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) ปรามาสและสัมปยุตตขันธ์ที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ปรามาส
และสัมปยุตตขันธ์ที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย (3)

สมนันตรปัจจัยเป็นต้น
[26] สภาวธรรมที่เป็นปรามาสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นปรามาสโดย
สมนันตรปัจจัย เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัยโดยอัญญมัญญปัจจัย
เป็นปัจจัยโดยนิสสยปัจจัย มี 5 วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :450 }