เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 44.นีวรณทุกะ 7.ปัจจยวาร
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่ไม่เป็นนิวรณ์เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
นิวรณ์ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (3)
สภาวธรรมที่เป็นนิวรณ์และที่ไม่เป็นนิวรณ์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นนิวรณ์
โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ มี 3 วาระ (มีเฉพาะ
อารัมมณาธิปติปัจจัยเท่านั้น)

อนันตรปัจจัย
[30] สภาวธรรมที่เป็นนิวรณ์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นนิวรณ์โดยอนันตร-
ปัจจัย ได้แก่ นิวรณ์ที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่นิวรณ์ที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย
(พึงอ้างบทที่เป็นมูล) นิวรณ์ที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่เป็นนิวรณ์ซึ่งเกิด
หลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย นิวรณ์เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะโดยอนันตรปัจจัย (พึงอ้าง
บทที่เป็นมูล) นิวรณ์ที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่นิวรณ์และสัมปยุตตขันธ์ที่เกิดหลัง ๆ
โดยอนันตรปัจจัย (3)
[31] สภาวธรรมที่ไม่เป็นนิวรณ์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นนิวรณ์โดย
อนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่เป็นนิวรณ์ซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่เป็น
นิวรณ์ซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย ฯลฯ เนวสัญญานาสัญญายตนะของท่าน
ผู้ออกจากนิโรธเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอนันตรปัจจัย (พึงอ้างบทที่เป็นมูล)
ขันธ์ที่ไม่เป็นนิวรณ์ซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่นิวรณ์ที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย
อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่นิวรณ์โดยอนันตรปัจจัย (พึงอ้างบทที่เป็นมูล) ขันธ์ที่ไม่เป็น
นิวรณ์ซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่นิวรณ์และสัมปยุตตขันธ์ที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตร-
ปัจจัย อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่นิวรณ์และสัมปยุตตขันธ์โดยอนันตรปัจจัย (3)
[32] สภาวธรรมที่เป็นนิวรณ์และที่ไม่เป็นนิวรณ์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
นิวรณ์โดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ นิวรณ์และสัมปยุตตขันธ์ที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่
นิวรณ์ที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย (พึงอ้างบทที่เป็นมูล) นิวรณ์และสัมปยุตตขันธ์
ที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่เป็นนิวรณ์ซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย
นิวรณ์และสัมปยุตตขันธ์เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะโดยอนันตรปัจจัย (พึงอ้างบทที่เป็นมูล)
นิวรณ์และสัมปยุตตขันธ์ที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่นิวรณ์และสัมปยุตตขันธ์ที่เกิด
หลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย (3)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :403 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 44.นีวรณทุกะ 7.ปัจจยวาร
สมนันตรปัจจัยเป็นต้น
[33] สภาวธรรมที่เป็นนิวรณ์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นนิวรณ์โดยสมนันตร-
ปัจจัย เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัยโดยอัญญมัญญปัจจัย เป็นปัจจัย
โดยนิสสยปัจจัย

อุปนิสสยปัจจัย
[34] สภาวธรรมที่เป็นนิวรณ์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นนิวรณ์โดย
อุปนิสสยปัจจัย มี 3 อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และ
ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ นิวรณ์เป็นปัจจัยแก่นิวรณ์โดยอุปนิสสยปัจจัย มี 3
วาระ
[35] สภาวธรรมที่ไม่เป็นนิวรณ์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นนิวรณ์โดย
อุปนิสสยปัจจัย มี 3 อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และ
ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาแล้วให้ทาน สมาทานศีล รักษา
อุโบสถ ฯลฯ ทำฌานให้เกิดขึ้น ฯลฯ ทำวิปัสสนา ฯลฯ มรรค ฯลฯ อภิญญา
ฯลฯ ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น มีมานะ ถือทิฏฐิ อาศัยศีล ฯลฯ ปัญญา ฯลฯ
ราคะ ... โทสะ ... โมหะ ... มานะ ... ทิฏฐิ ... ความปรารถนา ... สุขทางกาย
... ทุกข์ทางกาย ... อุตุ ... โภชนะ ... เสนาสนะแล้วให้ทาน ฯลฯ ทำลายสงฆ์
ศรัทธา ฯลฯ เสนาสนะเป็นปัจจัยแก่ศรัทธา ฯลฯ ปัญญา ... ราคะ ฯลฯ
ความปรารถนา ... สุขทางกาย ... ทุกข์ทางกาย ... มรรค ... ผลสมาบัติโดย
อุปนิสสยปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นนิวรณ์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นนิวรณ์โดยอุปนิสสยปัจจัย
มี 3 อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาแล้วมีมานะ ถือทิฏฐิ อาศัยศีล
ฯลฯ เสนาสนะแล้ว ฆ่าสัตว์ ฯลฯ ทำลายสงฆ์ ศรัทธา ฯลฯ เสนาสนะเป็น
ปัจจัยแก่ราคะ ฯลฯ ความปรารถนาโดยอุปนิสสยปัจจัย (2)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :404 }