เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 29. คันถคันถนิยทุกะ 7. ปัญหาวาร
29. คันถคันถนิยทุกะ 7. ปัญหาวาร
1. ปัจจยานุโลม 1. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[104] สภาวธรรมที่เป็นคันถะและเป็นอารมณ์ของคันถะเป็นปัจจัยแก่สภาว-
ธรรมที่เป็นคันถะและเป็นอารมณ์ของคันถะโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่เป็นคันถะเป็น
ปัจจัยแก่สัมปยุตตคันถะโดยเหตุปัจจัย (พึงขยายวาระทั้ง 9 ให้พิสดารอย่างนี้)

อารัมมณปัจจัย
[105] สภาวธรรมที่เป็นคันถะและเป็นอารมณ์ของคันถะเป็นปัจจัยแก่สภาว-
ธรรมที่เป็นคันถะและเป็นอารมณ์ของคันถะโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ เพราะปรารภ
คันถะ คันถะจึงเกิดขึ้น (พึงอ้างบทที่เป็นมูล) เพราะปรารภคันถะ ขันธ์ที่เป็น
อารมณ์ของคันถะแต่ไม่เป็นคันถะจึงเกิดขึ้น (พึงอ้างบทที่เป็นมูล) เพราะปรารภ
คันถะ คันถะและสัมปยุตตขันธ์จึงเกิดขึ้น (3)
[106] สภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของคันถะแต่ไม่เป็นคันถะเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของคันถะแต่ไม่เป็นคันถะโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่
บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้วพิจารณากุศลนั้น พิจารณากุศลที่
เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว ฯลฯ ออกจากฌาน ฯลฯ พระอริยะพิจารณาโคตรภู พิจารณา
โวทาน พิจารณากิเลสที่ละได้แล้ว พิจารณากิเลสที่ข่มได้แล้ว รู้กิเลสที่เคยเกิดขึ้น
บุคคลเห็นแจ้งจักษุ ฯลฯ หทัยวัตถุ ขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของคันถะแต่ไม่เป็นคันถะ
โดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น บุคคลเห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟัง
เสียงด้วยทิพพโสตธาตุ (พึงขยายให้พิสดารทั้งหมด) ... เป็นปัจจัยแก่อาวัชชนจิต
โดยอารัมมณปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของคันถะแต่ไม่เป็นคันถะเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นคันถะและเป็นอารมณ์ของคันถะโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลให้ทาน
สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว ยินดีเพลิดเพลินกุศลนั้น เพราะปรารภความยินดี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :382 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 30.คันถคันถสัมปยุตตทุกะ 1.ปฏิจจวาร
เพลิดเพลินกุศลนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิ ฯลฯ วิจิกิจฉา ฯลฯ อุทธัจจะ ฯลฯ
โทมนัสจึงเกิดขึ้น บุคคลยินดีเพลิดเพลินกุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว ฯลฯ ออกจาก
ฌานแล้ว ยินดีเพลิดเพลินฌาน ฯลฯ จักษุ ฯลฯ หทัยวัตถุ ขันธ์ที่เป็นอารมณ์
ของคันถะแต่ไม่เป็นคันถะ เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินฌานเป็นต้นนั้น
ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิ ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น (2)
สภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของคันถะแต่ไม่เป็นคันถะเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
เป็นคันถะเป็นอารมณ์ของคันถะและที่เป็นอารมณ์ของคันถะแต่ไม่เป็นคันถะโดย
อารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ ฯลฯ
พิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว ฯลฯ ออกจากฌานแล้วยินดีเพลิดเพลินฌาน
ฯลฯ จักษุ ฯลฯ หทัยวัตถุและขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของคันถะแต่ไม่เป็นคันถะ เพราะ
ปรารภความยินดีเพลิดเพลินฌานเป็นต้นนั้น คันถะและสัมปยุตตขันธ์จึงเกิดขึ้น
(พึงขยายความทั้ง 3 วาระนอกนี้ให้พิสดารอย่างนี้) (3)
(พึงเพิ่มคำว่า เพราะปรารภ ในทุกะนี้ไม่มีโลกุตตระเหมือนกับคันถทุกะ ไม่
มีข้อแตกต่างกัน พึงกำหนดแน่นอนว่า เป็นอารมณ์ของคันถะ ในมัคคปัจจัยพึง
เพิ่มเป็น 9 วาระ)
คันถคันถนิยทุกะ จบ

30. คันถคันถสัมปยุตตทุกะ 1. ปฏิจจวาร
1 - 4. ปัจจยจตุกกนัย
เหตุปัจจัย
[107] สภาวธรรมที่เป็นคันถะและสัมปยุตด้วยคันถะอาศัยสภาวธรรมที่เป็น
คันถะและสัมปยุตด้วยคันถะเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ อภิชฌากายคันถะอาศัย
สีลัพพตปรามาสกายคันถะเกิดขึ้น สีลัพพตปรามาสกายคันถะอาศัยอภิชฌา-
กายคันถะเกิดขึ้น อภิชฌากายคันถะอาศัยอิทังสัจจาภินิเวสกายคันถะเกิดขึ้น
อิทังสัจจาภินิเวสกายคันถะอาศัยอภิชฌากายคันถะเกิดขึ้น (1)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :383 }