เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 22.สัญโญชนสัมปยุตตทุกะ 7.ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่วิปปยุตจากสังโยชน์
โดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่
โมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่สัมปยุตด้วย
สังโยชน์เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะโดยอนันตรปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์
และที่วิปปยุตจากสังโยชน์โดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะซึ่ง
เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์และโมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะซึ่งเกิดหลัง ๆ โดย
อนันตรปัจจัย (3)
[74] สภาวธรรมที่วิปปยุตจากสังโยชน์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่วิปปยุตจาก
สังโยชน์โดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็น
ปัจจัยแก่โมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่วิปปยุต
จากสังโยชน์ซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่วิปปยุตจากสังโยชน์ซึ่งเกิดหลัง ๆ
ฯลฯ ผลสมาบัติโดยอนันตรปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่วิปปยุตจากสังโยชน์ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์
โดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย อาวัชชนจิตเป็นปัจจัย
แก่ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์โดยอนันตรปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่วิปปยุตจากสังโยชน์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์
และที่วิปปยุตจากสังโยชน์โดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะซึ่ง
เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์และโมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะซึ่งเกิดหลัง ๆ โดย
อนันตรปัจจัย อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์และโมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะโดย
อนันตรปัจจัย (3)
[75] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์และที่วิปปยุตจากสังโยชน์เป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์โดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์และโมหะ
ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะซึ่งเกิด
หลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย (1)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :308 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 22.สัญโญชนสัมปยุตตทุกะ 7.ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์และที่วิปปยุตจากสังโยชน์เป็นปัจจัยแก่สภาว-
ธรรมที่วิปปยุตจากสังโยชน์โดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์และโมหะที่สหรคตด้วย
อุทธัจจะซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่โมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะซึ่งเกิดหลัง ๆ โดย
อนันตรปัจจัย ขันธ์และโมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะโดย
อนันตรปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์และที่วิปปยุตจากสังโยชน์เป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์และที่วิปปยุตจากสังโยชน์ โดยอนันตรปัจจัย ได้แก่
ขันธ์และโมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์และโมหะที่
สหรคตด้วยอุทธัจจะซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย (3)

สมนันตรปัจจัยเป็นต้น
[76] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
สังโยชน์โดยอนันตรปัจจัย มี 9 วาระ เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย มี 9 วาระ
เป็นปัจจัยโดยอัญญมัญญปัจจัย มี 6 วาระ เป็นปัจจัยโดยนิสสยปัจจัย มี 9 วาระ

อุปนิสสยปัจจัย
[77] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
สังโยชน์โดยอุปนิสสยปัจจัย มี 3 อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ
และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สัมปยุต
ด้วยสังโยชน์ โดยอุปนิสสยปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่วิปปยุตจากสังโยชน์
โดยอุปนิสสยปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์เป็นปัจจัยแก่ขันธ์และโมหะ
ที่วิปปยุตจากสังโยชน์โดยอุปนิสสยปัจจัย (2)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :309 }