เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 17.อาสวสาสวทุกะ 1.ปฏิจจวาร
[110] สภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะอาศัยสภาวธรรม
ที่เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 และ
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะเกิดขึ้น ฯลฯ
อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น ขันธ์อาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้น ... อาศัยมหาภูตรูป 1 ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่เป็นอาสวะและเป็นอารมณ์ของอาสวะอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอารมณ์
ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ อาสวะอาศัยขันธ์ที่เป็น
อารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะเกิดขึ้น (2)
สภาวธรรมที่เป็นอาสวะเป็นอารมณ์ของอาสวะและที่เป็นอารมณ์ของอาสวะ
แต่ไม่เป็นอาสวะอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 อาสวะและจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ 1 ที่
เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ (3)
[111] สภาวธรรมที่เป็นอาสวะและเป็นอารมณ์ของอาสวะอาศัยสภาวธรรมที่
เป็นอาสวะเป็นอารมณ์ของอาสวะและที่เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ทิฏฐาสวะและอวิชชาสวะอาศัยกามาสวะและสัมปยุตตขันธ์
เกิดขึ้น (พึงผูกเป็นจักกนัยอย่างนี้) (1)
สภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะอาศัยสภาวธรรมที่เป็น
อาสวะเป็นอารมณ์ของอาสวะและที่เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นอารมณ์
ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะและอาศัยอาสวะเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ (2)
สภาวธรรมที่เป็นอาสวะเป็นอารมณ์ของอาสวะและที่เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่
ไม่เป็นอาสวะอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอาสวะเป็นอารมณ์ของอาสวะและที่เป็นอารมณ์ของ
อาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 ทิฏฐาสวะ อวิชชาสวะ
และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นอารมณ์ของอาสวะ แต่ไม่เป็นอาสวะและ
อาศัยกามาสวะเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ (พึงผูกเป็นจักกนัย ย่อ) (3)
(ปฏิจจวาร สหชาตวาร ปัจจยวาร นิสสยวาร สังสัฏฐวาร และสัมปยุตตวาร
ก็มีอย่างนี้ พึงทำเหมือนอาสวทุกะ ไม่มีข้อแตกต่างกัน)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :263 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 17.อาสวสาสวทุกะ 7.ปัญหาวาร
17. อาสวสาสวทุกะ 7. ปัญหาวาร
1. ปัจจยานุโลม 1. วิภังควาร
(เหตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย ในปัญหาวาร ไม่พึงเพิ่มโลกุตตระ แต่พึง
เพิ่มคำว่า พระเสขะพิจารณาโคตรภู พิจารณาโวทาน แม้อธิปติปัจจัย ผู้รู้ทราบ
เนื้อความทั้งหมดแล้วพึงเพิ่ม)

อนันตรปัจจัย
[112] สภาวธรรมที่เป็นอาสวะและเป็นอารมณ์ของอาสวะเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่เป็นอาสวะและเป็นอารมณ์ของอาสวะโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ อาสวะ
ที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่อาสวะที่เกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่เป็นอาสวะและเป็นอารมณ์ของอาสวะเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็น
อารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ อาสวะที่เกิดก่อน ๆ
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะซึ่งเกิดหลัง ๆ โดย
อนันตรปัจจัย อาสวะเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะโดยอนันตรปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่เป็นอาสวะและเป็นอารมณ์ของอาสวะเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
เป็นอาสวะเป็นอารมณ์ของอาสวะและที่เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะโดย
อนันตรปัจจัย ได้แก่ อาสวะที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่อาสวะและสัมปยุตตขันธ์
ซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย (3)
[113] สภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์
ที่เป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็น
อารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย อนุโลมเป็น
ปัจจัยแก่โคตรภู อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โวทาน อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็น
อารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะโดยอนันตรปัจจัย (1)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :264 }