เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 16.อาสวสัมปยุตตทุกะ 7.ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอาสวะเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอาสวะ
และที่วิปปยุตจากอาสวะโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะ
และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอาสวะเป็นปัจจัยแก่ขันธ์และโมหะ
ที่สหรคตด้วยโทมนัส ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา และที่สหรคตด้วยอุทธัจจะโดยอุปนิสสย-
ปัจจัย (3)
[87] สภาวธรรมที่วิปปยุตจากอาสวะเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่วิปปยุตจาก
อาสวะโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 3 อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ
และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาแล้วให้ทาน ฯลฯ อาศัยศีล ฯลฯ
ปัญญา ฯลฯ สุขทางกาย ฯลฯ เสนาสนะ ฯลฯ โมหะแล้วให้ทาน ฯลฯ ทำ
สมาบัติให้เกิดขึ้น ศรัทธา ฯลฯ ปัญญา สุขทางกาย ทุกข์ทางกาย และโมหะ
เป็นปัจจัยแก่ศรัทธา ฯลฯ โมหะโดยอุปนิสสยปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่วิปปยุตจากอาสวะเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอาสวะ
โดยอุปนิสสยปัจจัย มี 3 อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และ
ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาแล้วมีมานะ ถือทิฏฐิ อาศัยศีล
ฯลฯ ปัญญา สุขทางกาย ทุกข์ทางกาย อุตุ โภชนะ เสนาสนะ และโมหะ
แล้วฆ่าสัตว์ ฯลฯ ทำลายสงฆ์ ศรัทธา ฯลฯ โมหะเป็นปัจจัยแก่ราคะ ฯลฯ
ความปรารถนาโดยอุปนิสสยปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่วิปปยุตจากอาสวะเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอาสวะ
และที่วิปปยุตจากอาสวะโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะ
และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ศรัทธา ฯลฯ ศีล ฯลฯ โมหะเป็นปัจจัยแก่ขันธ์และ
โมหะที่สหรคตด้วยโทมนัส ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา และที่สหรคตด้วยอุทธัจจะโดย
อุปนิสสยปัจจัย (3)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :251 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 16.อาสวสัมปยุตตทุกะ 7.ปัญหาวาร
[88] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอาสวะและที่วิปปยุตจากอาสวะเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอาสวะโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อนันตรูป-
นิสสยะและปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ขันธ์และโมหะที่สหรคตด้วยโทมนัส ที่สหรคตด้วย
วิจิกิจฉา และที่สหรคตด้วยอุทธัจจะเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอาสวะโดย
อุปนิสสยปัจจัย (พึงอ้างบทที่เป็นมูล) ขันธ์และโมหะที่สหรคตด้วยโทมนัส ที่
สหรคตด้วยวิจิกิจฉา และที่สหรคตด้วยอุทธัจจะเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สัมปยุตด้วย
อาสวะโดยอุปนิสสยปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอาสวะและที่วิปปยุตจากอาสวะเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่สัมปยุตด้วยอาสวะและที่วิปปยุตจากอาสวะโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 2 อย่าง คือ
อนันตรูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ขันธ์และโมหะที่สหรคตด้วยโทมนัส ที่สหรคตด้วย
วิจิกิจฉา และที่สหรคตด้วยอุทธัจจะเป็นปัจจัยแก่ขันธ์และโมหะที่สหรคตด้วยโทมนัส
ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา และที่สหรคตด้วยอุทธัจจะโดยอุปนิสสยปัจจัย (2)

ปุเรชาตปัจจัย
[89] สภาวธรรมที่วิปปยุตจากอาสวะเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่วิปปยุตจาก
อาสวะโดยปุเรชาตปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะและวัตถุปุเรชาตะ
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งจักษุ ฯลฯ หทัยวัตถุโดยเป็น
สภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วย
ทิพพโสตธาตุ รูปายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะเป็น
ปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยปุเรชาตปัจจัย
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ กายา-
ยตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์และโมหะที่
วิปปยุตจากอาสวะโดยปุเรชาตปัจจัย (1)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :252 }