เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 16.อาสวสัมปยุตตทุกะ 1.ปฏิจจวาร
3. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
เหตุทุกนัย

[64] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี 3 วาระ ฯลฯ
นปุเรชาตปัจจัย ” มี 6 วาระ ฯลฯ
นวิปากปัจจัย ” มี 9 วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย ” มี 3 วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย ” มี 4 วาระ
โนนัตถิปัจจัย ” มี 3 วาระ
โนวิคตปัจจัย ” มี 3 วาระ

อนุโลมปัจจนียะ จบ

4. ปัจจยปัจจนียานุโลม
นเหตุทุกนัย

[65] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี 2 วาระ
อนันตรปัจจัย ” มี 2 วาระ
สมนันตรปัจจัย ” มี 2 วาระ ฯลฯ
กัมมปัจจัย ” มี 2 วาระ
วิปากปัจจัย ” มี 1 วาระ
อาหารปัจจัย ” มี 2 วาระ ฯลฯ
มัคคปัจจัย ” มี 1 วาระ
สัมปยุตตปัจจัย ” มี 2 วาระ
วิปปยุตตปัจจัย ” มี 2 วาระ ฯลฯ
วิคตปัจจัย ” มี 2 วาระ
อวิคตปัจจัย ” มี 2 วาระ

(สหชาตวารเหมือนกับปฏิจจวาร)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :237 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 16.อาสวสัมปยุตตทุกะ 3.ปัจจยวาร
16. อาสวสัมปยุตตทุกะ 3. ปัจจยวาร
1. ปัจจยานุโลม 1. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[66] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอาสวะทำสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วอาสวะให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย มี 3 วาระ (เหมือนกับปฏิจจวาร)
สภาวธรรมที่วิปปยุตจากอาสวะทำสภาวธรรมที่วิปปยุตจากอาสวะให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ 1 ที่วิปปยุต
จากอาสวะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ 2 ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปทำโมหะที่
สหรคตด้วยโทมนัส ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา และที่สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ หทัยวัตถุทำขันธ์ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์
ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ... ทำมหาภูตรูป 1 ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูป
และกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่วิปปยุต
จากอาสวะทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น โมหะที่สหรคตด้วยโทมนัส ที่สหรคต
ด้วยวิจิกิจฉา และที่สหรคตด้วยอุทธัจจะทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (1)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอาสวะทำสภาวธรรมที่วิปปยุตจากอาสวะให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอาสวะทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น สัมปยุตตขันธ์ทำโมหะที่สหรคตด้วยโทมนัส ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา และที่
สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (2)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอาสวะและที่วิปปยุตจากอาสวะทำสภาวธรรมที่วิปปยุต
จากอาสวะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอาสวะทำ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปทำโมหะที่สหรคตด้วยโทมนัส ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา
และที่สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์และโมหะที่สหรคตด้วยโทมนัส
ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (3)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :238 }