เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 9.สนิทัสสนทุกะ 7.ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เห็นได้โดยปัจฉาชาตปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ที่เห็นไม่ได้ซึ่งเกิดภายหลังเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งเห็นได้โดยปัจฉาชาต-
ปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เห็นได้และที่เห็นไม่ได้โดย
ปัจฉาชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เห็นไม่ได้ซึ่งเกิดภายหลังเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิด
ก่อนซึ่งเห็นได้และเห็นไม่ได้โดยปัจฉาชาตปัจจัย (3)

อาเสวนปัจจัย
[42] สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้โดยอาเสวน-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เห็นไม่ได้ซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เห็นไม่ได้ซึ่งเกิด
หลัง ๆ ฯลฯ อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โคตรภู อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โวทาน โคตรภูเป็น
ปัจจัยแก่มรรค โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรคโดยอาเสวนปัจจัย (1)

กัมมปัจจัย
[43] สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้โดยกัมมปัจจัย
มี 2 อย่าง คือ สหชาตะและนานาขณิกะ
สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่เห็นไม่ได้เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตต-
สมุฏฐานรูปที่เห็นไม่ได้โดยกัมมปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่เห็นไม่ได้เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากและ
กฏัตตารูปที่เห็นไม่ได้โดยกัมมปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เห็นได้โดยกัมมปัจจัย มี 2
อย่าง คือ สหชาตะและนานาขณิกะ (พึงขยายให้พิสดาร) (2)
สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เห็นได้และที่เห็นไม่ได้โดย
กัมมปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะและนานาขณิกะ (พึงขยายให้พิสดาร) (3)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :128 }