เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 6.นเหตุสเหตุกทุกะ 7.ปัญหาวาร
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3 และ
จิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย ฯลฯ (พึงเพิ่มข้อความจนถึงอสัญญสัตตพรหม)
ปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งจักษุ ฯลฯ หทัยวัตถุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง
ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่อกุศลและอกุศลดับแล้ว จิตตุปบาทที่เป็นวิบากซึ่งไม่เป็น
เหตุและไม่มีเหตุจึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ รูปายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ
โผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ
ฯลฯ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อน
ฯลฯ กวฬิงการาหารเป็นปัจจัยแก่กายนี้ ฯลฯ รูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูป
โดยอัตถิปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุแต่มี
เหตุโดยอัตถิปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะและปุเรชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่เป็นเหตุแต่มี
เหตุโดยอัตถิปัจจัย
ปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งจักษุ ฯลฯ หทัยวัตถุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง
ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่อกุศลและอกุศลดับแล้ว จิตตุปบาทที่เป็นวิบากซึ่งไม่เป็น
เหตุแต่มีเหตุจึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ บุคคลเห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วย
ทิพพโสตธาตุ
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุโดย
อัตถิปัจจัย (2)
[194] สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุและที่ไม่เป็นเหตุไม่มีเหตุเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุโดยอัตถิปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะและ
ปุเรชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ 3 ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ขันธ์ 1 ที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุและหทัย
วัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3 ฯลฯ (1)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 42 หน้า :105 }