เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 6. วิตักกติกะ 7. ปัญหาวาร
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารแล้วให้ทาน
สมาทานศีล รักษาอุโบสถ ทําฌานที่มีทั้งวิตกและวิจารให้เกิดขึ้น ทำวิปัสสนา ฯลฯ
ทำมรรค ฯลฯ ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น มีมานะ ถือทิฏฐิ อาศัยศีลที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจาร ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา ... วิตกแล้วให้ทาน สมาทานศีล
รักษาอุโบสถ ทําฌานที่มีทั้งวิตกและวิจารให้เกิดขึ้น ทำวิปัสสนาให้เกิดขึ้น ทำ
มรรคให้เกิดขึ้น ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น ฆ่าสัตว์ ฯลฯ ทําลายสงฆ์ ศรัทธาที่ไม่มี
วิตกมีเพียงวิจาร ... ศีล ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา และวิตก เป็นปัจจัย
แก่ศรัทธาที่มีทั้งวิตกและวิจาร ฯลฯ ความปรารถนาโดยอุปนิสสยปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
โดยอุปนิสสยปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารแล้วทําฌาน
ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เกิดขึ้น ทำมรรค ฯลฯ ทำอภิญญา ฯลฯ ทำสมาบัติ
ให้เกิดขึ้น อาศัยศีลที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา ...
วิตกแล้วทําฌานที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เกิดขึ้น ทำมรรค ฯลฯ ทำอภิญญา ฯลฯ
ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น ศรัทธาที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ... ศีล ... สุตะ ... จาคะ ...
ปัญญา และวิตกเป็นปัจจัยแก่ศรัทธาที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ... ศีล ... สุตะ ... จาคะ
... ปัญญา และวิจาร ... สุขทางกาย ... ทุกข์ทางกายโดยอุปนิสสยปัจจัย (3)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะ
และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ศรัทธาที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ... ศีล ... สุตะ ... จาคะ
... ปัญญา และวิตกเป็นปัจจัยแก่ศรัทธาที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ... ศีล ... สุตะ ...
จาคะ ... ปัญญา และวิจารโดยอุปนิสสยปัจจัย (4)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจาร
และที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 3 อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ
อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :84 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 6. วิตักกติกะ 7. ปัญหาวาร
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ศรัทธาที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร ... ศีล ... สุตะ ...
จาคะ ... ปัญญา และวิตกเป็นปัจจัยแก่ศรัทธาที่มีทั้งวิตกและวิจาร ฯลฯ ความ
ปรารถนาและวิตกโดยอุปนิสสยปัจจัย (5)
[104] สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตก
และวิจารโดยอุปนิสสยปัจจัย มี 3 อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ
และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารแล้วทําฌาน
ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารให้เกิดขึ้น ทำมรรค ... ทำอภิญญา ... ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น
อาศัยศีลที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา ...วิจาร ... สุขทางกาย
... ทุกข์ทางกาย ... อุตุ ... โภชนะ ... เสนาสนะแล้วทําฌานที่ไม่มีทั้งวิตกและ
วิจารให้เกิดขึ้น ทำมรรค ... ทำอภิญญา ... ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น ศรัทธาที่ไม่มี
ทั้งวิตกและวิจาร ... ศีล ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา ... วิจาร ... สุขทางกาย
... ทุกข์ทางกาย ... อุตุ ... โภชนะ ...เสนาสนะเป็นปัจจัยแก่ศรัทธาที่ไม่มีทั้ง
วิตกและวิจาร ... ศีล ... สุตะ ... จาคะ .. ปัญญา ... วิจาร ... สุขทางกาย
และทุกข์ทางกายโดยอุปนิสสยปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจาร
โดยอุปนิสสยปัจจัย มี 3 อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และ
ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารแล้วให้ทาน
สมาทานศีล รักษาอุโบสถ ทําฌานที่มีทั้งวิตกและวิจารให้เกิดขึ้น ทำวิปัสสนา ... ทำ
มรรค ... ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น มีมานะ ถือทิฏฐิ อาศัยศีลที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ...
สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา ... วิจาร ... สุขทางกาย ... ทุกข์ทางกาย ... อุตุ
... โภชนะ ... เสนาสนะแล้วให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ ทําฌานที่มีทั้งวิตก
และวิจารให้เกิดขึ้น ทำวิปัสสนา ... ทำมรรค ... ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น ฆ่าสัตว์ ฯลฯ
ทําลายสงฆ์ ศรัทธาที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร ฯลฯ เสนาสนะเป็นปัจจัยแก่ศรัทธาที่
มีทั้งวิตกและวิจาร ... ศีล ... ความปรารถนาโดยอุปนิสสยปัจจัย (2)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :85 }