เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 22. สนิทัสสนสัปปฏิฆติกะ 7. ปัญหาวาร
แก่มหาภูตรูป 2 โดยอัตถิปัจจัย มหาภูตรูป 2 เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป 1 โดย
อัตถิปัจจัย มหาภูตรูปที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปและ
กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปซึ่งเห็นไม่ได้แต่กระทบได้โดยอัตถิปัจจัย โผฏฐัพพายตนะ
เป็นปัจจัยแก่จักขายตนะ ฯลฯ รสายตนะโดยอัตถิปัจจัย ... ที่เป็นภายนอก ...
ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... มหาภูตรูป 1 เป็นปัจจัย
แก่มหาภูตรูป 2 โดยอัตถิปัจจัย มหาภูตรูป 2 เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป 1 โดย
อัตถิปัจจัย มหาภูตรูปที่มีอุตุเป็นสมุฏฐานเป็นปัจจัยแก่อุปาทายรูปที่เห็นไม่ได้แต่
กระทบได้โดยอัตถิปัจจัย สําหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป 1 ที่เห็นไม่ได้
แต่กระทบได้เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป 2 โดยอัตถิปัจจัย มหาภูตรูป 2 ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เห็นได้และกระทบ
ได้โดยอัตถิปัจจัย (2) (ปัจจัยนี้เหมือนกับนิสสยปัจจัยในปฏิจจวาร)
สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้และ
กระทบไม่ได้โดยอัตถิปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะและปุเรชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ มหาภูตรูปที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้เป็นปัจจัยแก่จิตต-
สมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปซึ่งเห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้โดยอัตถิปัจจัย
(พึงขยายให้พิสดารจนถึงอสัญญสัตตพรหม)
ปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งจักษุ ฯลฯ กาย ... เสียง ฯลฯ
โผฏฐัพพะโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่
จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยอัตถิปัจจัย (3)
(พึงขยาย 4 วาระที่เหลือให้พิสดารเหมือนกับสหชาตปัจจัยในปฏิจจวาร
ไม่มีแตกต่างกัน) (7)
[52] สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้
และกระทบไม่ได้โดยอัตถิปัจจัย มี 5 อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ ปัจฉาชาตะ
อาหาระ และอินทรียะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3
และจิตตสมุฏฐานรูปที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้โดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ 2 ฯลฯ ใน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :657 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 22. สนิทัสสนสัปปฏิฆติกะ 7. ปัญหาวาร
ปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อาโปธาตุเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็น
อุปาทายรูปซึ่งเห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้ ฯลฯ อาโปธาตุเป็นปัจจัยแก่อิตถินทรีย์
ฯลฯ กวฬิงการาหารโดยอัตถิปัจจัย ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน
... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สําหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม อาโปธาตุเป็นปัจจัย
แก่กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปซึ่งเห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้โดยอัตถิปัจจัย
ปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งหทัยวัตถุ ... อิตถินทรีย์ ... ปุริสินทรีย์ ...
ชีวิตินทรีย์ ... อาโปธาตุ ... กวฬิงการาหารโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัส
จึงเกิดขึ้น หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้โดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้เป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิด
ก่อนซึ่งเห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้โดยอัตถิปัจจัย กวฬิงการาหารเป็นปัจจัยแก่กายนี้
ที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้โดยอัตถิปัจจัย รูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปที่
เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้โดยอัตถิปัจจัย (พึงจําแนก 6 วาระที่เหลืออย่างนี้ พึง
เพิ่มสหชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ และอินทรียะ) (7)
[53] สภาวธรรมที่เห็นได้กระทบได้และที่เห็นไม่ได้กระทบไม่ได้เป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้โดยอัตถิปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปุเรชาตะ
ได้แก่ รูปายตนะและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้โดย
อัตถิปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้และที่เห็นไม่ได้กระทบไม่ได้เป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่เห็นได้และกระทบได้โดยอัตถิปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เห็นไม่ได้กระทบไม่
ได้และมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปที่เห็นได้และกระทบได้โดยอัตถิปัจจัย
ในปฏิสนธิขณะ (ย่อ สําหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหมพึงจัดไว้ด้วย) (1)
สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้และที่เห็นไม่ได้กระทบไม่ได้เป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้โดยอัตถิปัจจัย (ย่อ) (2)
[54] สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้และที่เห็นไม่ได้กระทบไม่ได้เป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้โดยอัตถิปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะ
และปุเรชาตะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :658 }