เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 22. สนิทัสสนสัปปฏิฆติกะ 7. ปัญหาวาร
นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็น
วิบากและกฏัตตารูปที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้โดยกัมมปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เห็นได้และ
กระทบได้โดยกัมมปัจจัย มี 2 อย่าง คือ สหชาตะและนานาขณิกะ
สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้เป็นปัจจัยแก่จิตต-
สมุฏฐานรูปที่เห็นได้และกระทบได้โดยกัมมปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูป
ที่เห็นได้และกระทบได้โดยกัมมปัจจัย (2)
(พึงจําแนกสหชาตะ และนานาขณิกะ เป็น 7 วาระ อย่างนี้ ด้วยเหตุนี้
สงเคราะห์รูป 3 อย่าง) (7)

วิปากปัจจัย
[44] สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เห็น
ไม่ได้และกระทบไม่ได้โดยวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่เป็นวิบากซึ่งเห็นไม่ได้และ
กระทบไม่ได้เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3 และจิตตสมุฏฐานรูปที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้
โดยวิปากปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ 2 ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ 1 ที่เห็นไม่ได้และ
กระทบไม่ได้เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3 และกฏัตตารูปที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้โดย
วิปากปัจจัย ฯลฯ ขันธ์เป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุโดยวิปากปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เห็นได้และ
กระทบได้โดยวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งเห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้เป็น
ปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปที่เห็นได้และกระทบได้โดยวิปากปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปที่เห็นได้และกระทบได้โดย
วิปากปัจจัย (2)
(พึงขยายให้พิสดารเป็น 7 วาระอย่างนี้ พึงขยายปวัตติกาลและปฏิสนธิกาล)
(7)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :653 }