เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 16. มัคคารัมมณติกะ 7. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดีโดย
อธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่มีมรรคเป็น
อารมณ์เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ที่มีมรรคเป็นอธิบดีโดยอธิปติปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์
และที่มีมรรคเป็นอธิบดีโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่
อธิบดีธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ที่มีมรรคเป็นอารมณ์
และที่มีมรรคเป็นอธิบดีโดยอธิปติปัจจัย (3)
[32] สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นเหตุเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นเหตุ
โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่มีมรรค
เป็นเหตุเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยอธิปติปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นเหตุเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์โดย
อธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอริยะออกจากมรรค
แล้วพิจารณามรรคให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น (2)
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นเหตุเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดีโดย
อธิปติปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอริยะออกจากมรรคแล้วพิจารณามรรคให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่มีมรรคเป็นเหตุเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
ที่มีมรรคเป็นอธิบดีโดยอธิปติปัจจัย (3)
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นเหตุเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์และ
ที่มีมรรคเป็นอธิบดีโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระ
อริยะออกจากมรรคแล้วพิจารณามรรคให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น (4)
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นเหตุเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นเหตุและที่มี
มรรคเป็นอธิบดีโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดี
ธรรมที่มีมรรคเป็นเหตุเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ที่มีมรรคเป็นเหตุและที่มีมรรคเป็น
อธิบดีโดยอธิปติปัจจัย (5)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :535 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 16. มัคคารัมมณติกะ 7. ปัญหาวาร
[33] สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดีเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดี
โดยอธิปติปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอริยะออกจากมรรคแล้วพิจารณามรรคให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดีเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตต-
ขันธ์โดยอธิปติปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดีเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์
โดยอธิปติปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอริยะออกจากมรรคแล้วพิจารณามรรคให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดีเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตต-
ขันธ์ที่มีมรรคเป็นอารมณ์โดยอธิปติปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดีเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นเหตุโดย
อธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่มีมรรคเป็น
อธิบดีเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ที่มีมรรคเป็นเหตุโดยอธิปติปัจจัย (3)
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดีเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์
และที่มีมรรคเป็นอธิบดีโดยอธิปติปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและ
สหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอริยะออกจากมรรคแล้วพิจารณามรรคให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดีเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตต-
ขันธ์ที่มีมรรคเป็นอารมณ์และที่มีมรรคเป็นอธิบดีโดยอธิปติปัจจัย (4)
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดีเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นเหตุและ
ที่มีมรรคเป็นอธิบดีโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่
อธิบดีธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดีเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ที่มีมรรคเป็นเหตุและที่มี
มรรคเป็นอธิบดีโดยอธิปติปัจจัย (5)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :536 }