เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 16. มัคคารัมมณติกะ 1. ปฏิจจวาร
16. มัคคารัมมณติกะ 1. ปฏิจจวาร
1. ปัจจยานุโลม 1. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[1] สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์อาศัยสภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่มีมรรคเป็นอารมณ์เกิดขึ้น
ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดีอาศัยสภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์เกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 ที่มีมรรคเป็นอธิบดีอาศัยขันธ์ 1 ที่มีมรรคเป็น
อารมณ์เกิดขึ้น ขันธ์ 1 อาศัยขันธ์ 3 เกิดขึ้น ... อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ (2)
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์และที่มีมรรคเป็นอธิบดีอาศัยสภาวธรรมที่มี
มรรคเป็นอารมณ์เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 ที่มีมรรคเป็นอารมณ์และ
ที่มีมรรคเป็นอธิบดีอาศัยขันธ์ 1 ที่มีมรรคเป็นอารมณ์เกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2
ฯลฯ (3)
[2] สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นเหตุอาศัยสภาวธรรมที่มีมรรคเป็นเหตุเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่มีมรรคเป็นเหตุเกิดขึ้น ฯลฯ
อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดีอาศัยสภาวธรรมที่มีมรรคเป็นเหตุเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 ที่มีมรรคเป็นอธิบดีอาศัยขันธ์ 1 ที่มีมรรคเป็นเหตุเกิดขึ้น
ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ (2)
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นเหตุและที่มีมรรคเป็นอธิบดีอาศัยสภาวธรรมที่มีมรรค
เป็นเหตุเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 ที่มีมรรคเป็นเหตุและที่มีมรรคเป็น
อธิบดีอาศัยขันธ์ 1 ที่มีมรรคเป็นเหตุเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ (3)
[3] สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดีอาศัยสภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดีเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่มีมรรคเป็นอธิบดีเกิดขึ้น ฯลฯ
อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ (1)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :522 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 16. มัคคารัมมณติกะ 1. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์อาศัยสภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดีเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 ที่มีมรรคเป็นอารมณ์อาศัยขันธ์ 1 ที่มีมรรคเป็นอธิบดี
เกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ (2)
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นเหตุอาศัยสภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดีเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 ที่มีมรรคเป็นเหตุอาศัยขันธ์ 1 ที่มีมรรคเป็นอธิบดีเกิดขึ้น
ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ (3)
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์และที่มีมรรคเป็นอธิบดีอาศัยสภาวธรรมที่มี
มรรคเป็นอธิบดีเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 ที่มีมรรคเป็นอารมณ์และ
ที่มีมรรคเป็นอธิบดีอาศัยขันธ์ 1 ที่มีมรรคเป็นอธิบดีเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2
ฯลฯ (4)
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นเหตุและที่มีมรรคเป็นอธิบดีอาศัยสภาวธรรมที่มีมรรค
เป็นอธิบดีเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 ที่มีมรรคเป็นเหตุและที่มีมรรคเป็น
อธิบดีอาศัยขันธ์ 1 ที่มีมรรคเป็นอธิบดีเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ (5)
[4] สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์อาศัยสภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์และ
ที่มีมรรคเป็นอธิบดีเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 ที่มีมรรคเป็นอารมณ์
อาศัยขันธ์ 1 ที่มีมรรคเป็นอารมณ์และที่มีมรรคเป็นอธิบดีเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัย
ขันธ์ 2 ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอธิบดีอาศัยสภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์และที่มี
มรรคเป็นอธิบดีเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 ที่มีมรรคเป็นอธิบดีอาศัย
ขันธ์ 1 ที่มีมรรคเป็นอารมณ์และที่มีมรรคเป็นอธิบดีเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2
ฯลฯ (2)
สภาวธรรมที่มีมรรคเป็นอารมณ์และที่มีมรรคเป็นอธิบดีอาศัยสภาวธรรมที่มี
มรรคเป็นอารมณ์และที่มีมรรคเป็นอธิบดีเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3
ที่มีมรรคเป็นอารมณ์และที่มีมรรคเป็นอธิบดีอาศัยขันธ์ 1 ที่มีมรรคเป็นอารมณ์และ
ที่มีมรรคเป็นอธิบดีเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2 ฯลฯ (3)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :523 }