เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 8. ทัสสเนนปหาตัพพติกะ 3. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ทำ
สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 และที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดา-
ปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่
จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 และทำมหาภูตรูปให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (1)

นปัจฉาชาตปัจจัยเป็นต้น
[53] สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคทำสภาวธรรมที่ต้อง
ประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนปัจฉาชาตปัจจัย เพราะ
นอาเสวนปัจจัย

นกัมมปัจจัย
[54] สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคทำสภาวธรรมที่ต้อง
ประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่
ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคทำขันธ์ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น (1)
... ทำสภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ฯลฯ เพราะนกัมม-
ปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ทำขันธ์ที่ต้องประหาณ
ด้วยมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (1)
... ทำสภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3
ฯลฯ เพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและ
มรรคเบื้องบน 3 ทำขันธ์ที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุ
เป็นสมุฏฐาน ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคทำสภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณ
ด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่
เจตนาที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (2)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :186 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 8. ทัสสเนนปหาตัพพติกะ 3. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ทำสภาวธรรมที่ไม่ต้อง
ประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ทำหทัยวัตถุให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (3)
[55] สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคทำสภาวธรรมที่ต้อง
ประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรค
เบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่ต้องประหาณ
ด้วยโสดาปัตติมรรคทำขันธ์ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและทำหทัยวัตถุให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (1)
สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ทำสภาวธรรมที่ต้องประหาณ
ด้วยมรรคเบื้องบน 3 และที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน
3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่ต้องประหาณด้วยมรรค
เบื้องบน 3 ทำขันธ์ที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 และทำหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น (1)

นวิปากปัจจัยเป็นต้น
[56] สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคทำสภาวธรรมที่ต้อง
ประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย (นวิปาก-
ปัจจัยเป็นต้นบริบูรณ์แล้ว ไม่มีปฏิสนธิ) เพราะนอาหารปัจจัย ได้แก่ ... ที่เป็น
ภายนอก ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สําหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม ฯลฯ เพราะ
นอินทรียปัจจัย ได้แก่ ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็น
สมุฏฐาน ... สําหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม ฯลฯ รูปชีวิตินทรีย์ทำมหาภูตรูป
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนฌานปัจจัย ได้แก่ ปัญจวิญญาณ ฯลฯ ที่เป็นภายนอก
ฯลฯ สําหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม ฯลฯ เพราะนมัคคปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 และ
จิตตสมุฏฐานรูป ทำขันธ์ 1 ที่เป็นอเหตุกะซึ่งไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค
และมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :187 }