เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 8. ทัสสเนนปหาตัพพติกะ 3. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดา-
ปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ทำสภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค
และมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ต้องประหาณ
ด้วยโสดาปัตติมรรคทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูป
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (4)
สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 และที่ไม่ต้องประหาณด้วย
โสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ทำสภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดา-
ปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
จิตตสมุฏฐานรูป ทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (5)
[38] สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคทำสภาวธรรมที่ต้อง
ประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรค
เบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 ทำขันธ์ 1 ที่ต้อง
ประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ 2
ทำขันธ์ 2 และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (1)
สภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ทำ
สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติ-
มรรคและมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตต-
สมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น (2)
สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดา-
ปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ทำสภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค
และที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 ทำขันธ์ 1 ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค
และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ 2 ทำขันธ์ 2 และหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค
และทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (3)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :177 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 8. ทัสสเนนปหาตัพพติกะ 3. ปัจจยวาร
[39] สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ทำสภาวธรรมที่ต้อง
ประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 และที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรค
เบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 ทำขันธ์ 1 ที่
ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำ
ขันธ์ 2 และหทัยวัตถุ ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ทำ
สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 และที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดา-
ปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตต-
สมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 และทำมหาภูตรูปให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น (2)
สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 และที่ไม่ต้องประหาณด้วย
โสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ทำสภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้อง
บน 3 และที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 ทำขันธ์ 1 ที่ต้องประหาณด้วย
มรรคเบื้องบน 3 และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ 2 และ
หทัยวัตถุ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 และ
ทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (3)

อารัมมณปัจจัย
[40] สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคทำสภาวธรรมที่ต้องประหาณ
ด้วยโสดาปัตติมรรคให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3 ทำ
ขันธ์ 1 ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ทำขันธ์ 2
ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ทำสภาวธรรมที่ต้องประหาณ
ด้วยมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 3
ทำขันธ์ 1 ที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน 3 ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ (1)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :178 }