เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 6. วิตักกติกะ 7. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารโดย
สัมปยุตตปัจจัย ได้แก่ วิตกเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารโดยสัมปยุตตปัจจัย
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (2)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
โดยสัมปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่วิจารโดย
สัมปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (3)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารโดยสัมปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3 และวิจารโดยสัมปยุตตปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ 2 เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ 2 และวิจาร ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (4)
[126] สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีทั้ง
วิตกและวิจารโดยสัมปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัย
แก่ขันธ์ 3 โดยสัมปยุตตปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ 2 เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 2 ฯลฯ ใน
ปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารโดยสัมปยุตตปัจจัย ได้แก่ วิจารเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดย
สัมปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (2)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาว-
ธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยสัมปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจาร และวิจารเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3 โดยสัมปยุตตปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ 2 และ
วิจารเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 2 ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่มีทั้งวิตกและวิจารโดยสัมปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ 1 ที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตก
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3 โดยสัมปยุตตปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ 2 และวิตกเป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ 2 ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (1)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :106 }