เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 6. วิตักกติกะ 7. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
โดยฌานปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
โดยฌานปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (5)
(ด้วยเหตุนี้พึงจําแนกปัญหาวารทั้ง 7 ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นมูล)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
โดยฌานปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
และจิตตสมุฏฐานรูปโดยฌานปัจจัย วิจารเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยฌาน-
ปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ วิจารเป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยฌานปัจจัย วิจารเป็น
ปัจจัยแก่หทัยวัตถุโดยฌานปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
โดยฌานปัจจัย ได้แก่ วิจารเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดย
ฌานปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ วิจารเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดย
ฌานปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร
และที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารโดยฌานปัจจัย ได้แก่ วิจารเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมี
เพียงวิจารและจิตตสมุฏฐานรูปโดยฌานปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ วิจารเป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและกฏัตตารูปโดยฌานปัจจัย (3)
[122] สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารโดยฌานปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารและวิจารเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยฌานปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารโดยฌานปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและ
วิจารเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยฌานปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (2)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารโดยฌานปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานที่ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :103 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] 6. วิตักกติกะ 7. ปัญหาวาร
วิตกมีเพียงวิจารและวิจารเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยฌาน-
ปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ องค์ฌานที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารและวิจารเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์และกฏัตตารูปโดยฌานปัจจัย (3)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่มีทั้งวิตกและวิจารโดยฌานปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกเป็น
ปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยฌานปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (1)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารโดยฌานปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานที่มีทั้งวิตกวิจารและวิตกเป็น
ปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยฌานปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (2)
สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่มีทั้งวิตกวิจารและที่ไม่มีทั้งวิตกวิจารโดยฌานปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานที่มีทั้งวิตก
วิจารและวิตกเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยฌานปัจจัย ใน
ปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (3)

มัคคปัจจัย
[123] สภาวธรรมที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีทั้งวิตก
และวิจารโดยมัคคปัจจัย ได้แก่ องค์มรรคที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สัม-
ปยุตตขันธ์โดยมัคคปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
(ด้วยเหตุนี้พึงจําแนกปัญหาวารทั้ง 7 ที่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นมูล)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกมีเพียง
วิจารโดยมัคคปัจจัย ได้แก่ องค์มรรคที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นปัจจัยแก่สัม-
ปยุตตขันธ์โดยมัคคปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
(ด้วยเหตุนี้พึงจําแนกปัญหาวารทั้ง 5 ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารเป็นมูล)
สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
โดยมัคคปัจจัย ได้แก่ องค์มรรคที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
และจิตตสมุฏฐานรูปโดยมัคคปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (1)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 41 หน้า :104 }