เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [41. เมตเตยยวรรค] 10. อุเทนเถราปทาน
[350] ฤๅษีทั้งหลาย เพียบพร้อมด้วยชฎา
และบริขาร นุ่งห่มหนังสัตว์
เที่ยวสัญจรอยู่ในป่าใหญ่
ประดับอาศรมของข้าพเจ้าให้งดงาม
[351] บางพวกนุ่งห่มหนังสัตว์ มีปัญญารักษาตน
มีความประพฤติสงบและบริโภคอาหารแต่น้อยเหล่านั้นทั้งหมด
ประดับอาศรมของข้าพเจ้าให้งดงาม
[352] ครั้งนั้น ฤๅษีทั้งหลายหาบบริขารเข้าไปสู่ป่า
กินหัวมันและผลไม้อยู่ในอาศรม
[353] ครั้งนั้น ฤๅษีเหล่านั้นไม่ต้องนำฟืนมา
น้ำสำหรับล้างเท้าก็ไม่ต้องนำมา
ด้วยอานุภาพแห่งฤๅษีทั้งปวง ฟืนและน้ำย่อมมาเอง
[354] ฤๅษี 84,000 ตน
ประชุมกันอยู่ในอาศรมนั้น ทั้งหมดนี้
เป็นผู้เข้าฌาน แสวงหาประโยชน์สูงสุด
[355] ฤๅษีเหล่านั้นเป็นผู้มีตบะ ประพฤติพรหมจรรย์
ตักเตือนกันและกัน เป็นผู้แน่นแฟ้น
เหาะไปในอากาศได้ทุกตนอยู่ในอาศรมในครั้งนั้น
[356] ประชุมกันทุก 5 วัน
ไม่ระส่ำระสาย มีความประพฤติสงบ
กราบไหว้กันและกันแล้ว
จึงบ่ายหน้าหลีกไปตามทิศ (ที่ตนอยู่)
[357] ครั้งนั้น พระชินเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ
ทรงถึงความสำเร็จแห่งธรรมทั้งปวง
พระองค์เสด็จอุบัติขึ้น กำจัดความมืดมนอนธการ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :700 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [41. เมตเตยยวรรค] 10. อุเทนเถราปทาน
[358] ใกล้อาศรมของข้าพเจ้า
มียักษ์ตนหนึ่ง ผู้มีฤทธิ์มาก
ยักษ์ตนนั้นได้บอกข่าวพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทรงพระนามว่าปทุมุตตระ แก่ข้าพเจ้าว่า
[359] พระพุทธเจ้าองค์นี้พระนามว่าปทุมุตตระ
เป็นพระมหามุนี เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว
ท่านจงรีบไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเถิด ท่านผู้นิรทุกข์
[360] ข้าพเจ้าได้ฟังคำของยักษ์แล้วก็มีจิตผ่องใสยิ่งนัก
จึงปิดอาศรมแล้วออกจากป่าในขณะนั้น
[361] เมื่อไฟกำลังไหม้ผ้าอยู่
ข้าพเจ้าออกจากอาศรม
พักอยู่กลางทางคืนหนึ่งแล้ว
เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นผู้นำโดยวิเศษ
[362] พระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ
ทรงรู้แจ้งโลก ผู้สมควรรับเครื่องบูชา
ทรงประกาศสัจจะ 4 แสดงอมตบทอยู่
[363] ข้าพเจ้าถือดอกปทุมซึ่งบานเต็มที่
เข้าเฝ้าพระองค์ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่แล้ว
มีจิตเลื่อมใส มีใจยินดี ถวายอภิวาทพระพุทธเจ้า
[364] บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ
ผู้ทรงเป็นผู้นำแล้วห่มหนังสัตว์เฉวียงบ่า
สรรเสริญพระองค์ผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลกว่า
[365] พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ไม่มีอาสวะ
ประทับอยู่ที่นี้ด้วยพระญาณใด
ข้าพระองค์จักสรรเสริญพระญาณนั้น
ขอพระองค์จงสดับข้าพระองค์กราบทูล

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :701 }