เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [1. พุทธวรรค] 3. เถราปทาน 6. อุปาลิเถราปทาน
[454] ท่านผู้นี้จักเป็นบุตรของนางมันตานี มีนามว่าปุณณะ
เป็นธรรมทายาท เป็นโอรสที่ธรรมเนรมิต
จักเป็นสาวกของพระศาสดาพระองค์นั้น
[455] ครั้งนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า1
ทรงพยากรณ์สุนันทดาบสอย่างนี้แล้ว
ทำให้ประชาชนทั้งปวงร่าเริง ทรงแสดงกำลังของพระองค์
[456] ครั้งนั้น2 ประชาชนประนมมือไหว้สุนันทดาบส
แต่สุนันทดาบสครั้นทำสักการะในพระพุทธเจ้าแล้ว
ก็ได้ชำระคติ(กำเนิด)ของตนให้บริสุทธิ์หมดจด
[457] เพราะข้าพเจ้าได้ฟังพระดำรัสของพระมุนี ณ ที่นั้น
จึงได้มีความดำริว่า เราจักสั่งสมบุญ
โดยประการที่จะได้พบพระผู้มีพระภาคพระนามว่าโคดม
[458] ครั้นข้าพเจ้าคิดอย่างนี้แล้ว ก็คิดถึงกิจที่เราควรทำว่า
เราจะบำเพ็ญบุญกรรมเช่นไร ในเนื้อนาบุญที่ยอดเยี่ยม
[459] บรรดาภิกษุผู้เป็นนักสวดทั้งหมดในศาสนา
ภิกษุรูปนี้เป็นนักสวดรูปหนึ่ง
ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้เลิศในทางวินัย
ตำแหน่งนั้นข้าพเจ้าปรารถนา3แล้ว
[460] โภคสมบัติของข้าพเจ้านี้นับประมาณมิได้
เปรียบดังห้วงน้ำที่ไม่มีอะไร ๆ ทำให้กระเพื่อมได้ (นับไม่ได้)
ข้าพเจ้าได้จ่ายโภคสมบัตินั้นสร้างอารามถวายพระพุทธเจ้า

เชิงอรรถ :
1 พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในที่นี้หมายถึงพระผู้มีพระภาคพระนามว่าปทุมุตตระ (ขุ.อป.อ. 1/455/333)
2 ครั้งนั้น ในที่นี้หมายถึงก่อนที่พระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระจะเสด็จอุบัติขึ้นมา (ขุ.อป.อ. 1/56/333)
3 ท่านได้เห็นพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระแต่งตั้งภิกษุรูปหนึ่งไว้ในตำแหน่งพระวินัยธรผู้เลิศกว่าพระ
วินัยธรทุกรูป จึงได้สักการะพระศาสดาแล้วปรารถนาตำแหน่งนั้นบ้าง (ขุ.อป.อ. 1/459/334)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :70 }