เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [41. เมตเตยยวรรค] 9. ชตุกัณณิกเถราปทาน
[321] จักเป็นผู้คงแก่เรียน จบไตรเพท
เที่ยวแสวงหาประโยชน์อย่างสูงสุดอยู่ทั่วแผ่นดินนี้
[322] และภายหลัง เขาถูกกุศลมูลตักเตือนออกบวชแล้ว
จักยินดียิ่งในศาสนาของพระผู้มีพระภาคพระนามว่าโคดม
[323] ผู้นี้จักให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าโคดมศากยะ
ผู้ประเสริฐทรงพอพระทัย
เผากิเลสทั้งหลายได้แล้ว จักเป็นพระอรหันต์
[324] วันนี้ ข้าพเจ้าเป็นผู้ไม่ครั่นคร้ามอยู่
ในศาสนาของพระศากยะผู้ประเสริฐ
ดุจพญาเสือโคร่งและราชสีห์ พญาเนื้อในป่าใหญ่
[325] ข้าพเจ้าไม่เห็นการบังเกิดของข้าพเจ้าในตระกูลที่ขัดสน
หรือยากจนในเทวโลก หรือในมนุษยโลก
นี้เป็นผลแห่งการบำรุง
[326] ข้าพเจ้าเป็นผู้ขวนขวายในวิเวก สงบระงับ ไม่มีอุปธิ
ตัดกิเลสเครื่องผูกพันได้แล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ
ดุจพญาช้างตัดเครื่องพันธนาการได้แล้วอยู่อย่างอิสระ
[327] กิเลสทั้งหลายข้าพเจ้าก็เผาได้แล้ว
ภพทั้งปวงข้าพเจ้าก็ถอนได้แล้ว
ข้าพเจ้าตัดกิเลสเครื่องผูกพันได้แล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ
ดุจพญาช้างตัดเครื่องพันธนาการได้แล้วอยู่อย่างอิสระ
[328] การที่ข้าพเจ้าได้มาในสำนักของพระพุทธเจ้า
เป็นการมาดีแล้วโดยแท้
วิชชา 3 ข้าพเจ้าได้บรรลุแล้วโดยลำดับ
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :696 }