เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [41. เมตเตยยวรรค] 7. เหมกเถราปทาน
[191] ข้าพเจ้านั้นได้ฟังข่าวพระพุทธเจ้าแล้ว
ทำจิตให้เลื่อมใสในพระพุทธองค์
จะยืนหรือนั่งอยู่ก็ตาม
ย่อมระลึกถึงตลอดกาลเป็นนิตย์
[192] เมื่อข้าพเจ้าระลึกถึงอยู่อย่างนี้
แม้พระผู้มีพระภาคก็ทรงระลึกถึง
เมื่อข้าพเจ้าระลึกถึงพระพุทธเจ้า ปีติก็เกิดขึ้นทันที
[193] พระมหามุนีทรงรอเวลาอีกหน่อยแล้ว
จึงเสด็จมาหาข้าพเจ้า
แม้เมื่อพระองค์เสด็จมาถึง
ข้าพเจ้าก็ไม่รู้จักว่าผู้นี้คือพระพุทธมหามุนี
[194] พระมหามุนีพระนามว่าปิยทัสสี ผู้อนุเคราะห์
ประกอบด้วยพระกรุณาทรงให้รู้จักพระองค์ว่า
เราเป็นพระพุทธเจ้าในมนุษยโลกพร้อมทั้งเทวโลก
[195] ครั้นข้าพเจ้ารู้จักแน่ชัดว่า
พระองค์เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าปิยทัสสี
ผู้เป็นมหามุนีแล้ว
จึงทำจิตของตนให้เลื่อมใส ได้กราบทูลคำนี้ว่า
[196] นิมนต์ภิกษุทั้งปวงนั่งบนตั่ง
บนบัลลังก์ และบนพนักพิง
ส่วนพระองค์ผู้มีปกติเห็นเหตุทั้งสิ้น
ขอเชิญประทับบนอาสนะที่รุ่งเรือง
[197] ในขณะนั้น ข้าพเจ้าเนรมิตตั่งซึ่งสำเร็จด้วยแก้วล้วน ๆ แล้ว
ถวายอาสนะที่เนรมิตด้วยฤทธิ์แด่พระมุนีพระนามว่าปิยทัสสี
[198] เมื่อพระพุทธเจ้าประทับนั่ง
บนตั่งแก้วที่ข้าพเจ้าเนรมิตด้วยฤทธิ์แล้ว
ข้าพเจ้าได้ถวายผลหว้าโตประมาณเท่าหม้อทันที

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :680 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [41. เมตเตยยวรรค] 7. เหมกเถราปทาน
[199] พระมหามุนีทรงให้ความร่าเริงเกิดแก่ข้าพเจ้าแล้ว ทรงเสวยแล้ว
ในครั้งนั้น ข้าพเจ้าทำจิตให้เลื่อมใสแล้ว
ถวายอภิวาทพระศาสดา
[200] ส่วนพระผู้มีพระภาคพระนามว่าปิยทัสสี ผู้เจริญที่สุดในโลก
ทรงองอาจกว่านรชน ประทับนั่งอยู่บนอาสนะแก้ว
ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า
[201] เราจักพยากรณ์ผู้ที่ได้ถวายตั่งแก้วและผลซึ่งเป็นอมตะแก่เรา
ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าวเถิด
[202] ผู้นี้จักรื่นรมย์ในเทวโลกตลอด 77 กัป
จักเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 75 ชาติ
[203] จักเป็นจอมเทพครองเทวสมบัติ 32 ชาติ
จักเป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์นับชาติไม่ถ้วน
[204] จักได้บัลลังก์ทองคำ บัลลังก์เงิน บัลลังก์แก้วทับทิม
และบัลลังก์แก้วล้วน จำนวนมาก ที่ทำอย่างสวยงาม
[205] บัลลังก์มากมายจักแวดล้อมผู้นี้ซึ่งเกิดเป็นมนุษย์
พรั่งพร้อมด้วยบุญกรรม แม้เดินอยู่ ทุกเมื่อ
[206] ปราสาทที่เป็นเรือนยอดและที่นอนอันควรค่ามาก
ดังจะรู้จิตของผู้นี้ บังเกิดขึ้นในขณะนั้นนั่นเอง
[207] ช้างพลายชาติมาตังคะ 60,000 เชือก
ประดับด้วยเครื่องอลังการทั้งปวง
มีสายประโคนพานหน้าและพานหลังทำด้วยทอง
ประกอบด้วยเครื่องประดับศีรษะและข่ายล้วนเป็นทอง
[208] มีควาญช้างผู้ถือหอกซัดและขอขึ้นขี่ประจำ
พลช้างเหล่านั้นจักบำเรอผู้นี้
นี้เป็นผลแห่งการถวายตั่งแก้ว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :681 }