พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [41. เมตเตยยวรรค] 6. นันทกเถราปทาน
[158] กิเลสทั้งหลายข้าพเจ้าก็เผาได้แล้ว
ภพทั้งปวงข้าพเจ้าก็ถอนได้แล้ว
ข้าพเจ้าตัดกิเลสเครื่องผูกพันได้แล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ
ดุจพญาช้างตัดเครื่องพันธนาการได้แล้วอยู่อย่างอิสระ
[159] การที่ข้าพเจ้าได้มาในสำนักของพระพุทธเจ้า
เป็นการมาดีแล้วโดยแท้
วิชชา 3 ข้าพเจ้าได้บรรลุแล้วโดยลำดับ
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว
[160] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระอุปสีวเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
อุปสีวเถราปทานที่ 5 จบ
6. นันทกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระนันทกเถระ
(พระนันทกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[161] เมื่อก่อน ข้าพเจ้าเป็นพรานเนื้อ
อยู่ในป่าดงทึบเที่ยวแสวงหาเนื้อฟานอยู่ ได้พบพระสยัมภู
[162] ครั้งนั้น พระสยัมภูปัจเจกพุทธเจ้าพระนามว่าอนุรุทธะนั้น
ผู้ไม่ทรงพ่ายแพ้ เป็นนักปราชญ์
ทรงประสงค์วิเวกจึงเสด็จเข้าป่า
[163] ข้าพเจ้าถือท่อนไม้ 4 ท่อน มาปักลงเป็น 4 เส้า
ทำเป็นมณฑปเรียบร้อยแล้ว มุงด้วยดอกปทุม
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [41. เมตเตยยวรรค] 6. นันทกเถราปทาน
[164] ครั้นมุงมณฑปแล้ว ได้ถวายอภิวาทพระสยัมภู
ทิ้งธนูไว้ ณ ที่นั้นเอง แล้วบวชเป็นบรรพชิต
[165] เมื่อข้าพเจ้าบวชแล้วไม่นาน ก็เกิดเจ็บไข้ขึ้น
ข้าพเจ้าระลึกถึงบุพกรรมแล้ว ก็ได้ตายไปในที่นั้น
[166] ข้าพเจ้าประกอบด้วยบุพกรรม
จึงได้ไปเกิดยังสวรรค์ชั้นดุสิต
ในสวรรค์ชั้นดุสิตนั้น
วิมานทองบังเกิดแก่ข้าพเจ้าตามปรารถนา
[167] ข้าพเจ้าอธิษฐานยานพาหนะทิพย์เทียมด้วยม้าพันตัว
ขึ้นยานพาหนะนั้นแล้ว ไปได้ตามปรารถนา
[168] เมื่อข้าพเจ้าอันบุญกรรมนำ
จากมนุษยโลกนั้นไปเกิดเป็นเทวดา
มณฑปย่อมกางกั้นไว้แก่ข้าพเจ้าตลอด 100 โยชน์โดยรอบ
[169] ข้าพเจ้านั้นนอนอยู่บนที่นอนที่ไม่มีเครื่องมุง
ลาดด้วยดอกไม้
ดอกปทุมทั้งหลายย่อมตกลงมา
จากอากาศตลอดกาลเป็นนิตย์
[170] เมื่อพยับแดดเต้นไหวอยู่ เมื่อแดดแผดเผาอยู่
แดดย่อมไม่แผดเผาข้าพเจ้า
นี้เป็นผลแห่งการทำมณฑปถวาย
[171] ข้าพเจ้าล่วงพ้นทุคติแล้ว
อบายทั้งหลายปิดแล้วสำหรับข้าพเจ้า
(เมื่อข้าพเจ้าอยู่) ที่มณฑปหรือที่โคนต้นไม้
ความร้อนย่อมไม่มีแก่ข้าพเจ้า
