เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [40. ปิลินทวัจฉวรรค] 3. สัพพกิตติกเถราปทาน
[314] พระองค์เท่านั้นเป็นที่พึ่งของผู้ที่ถูกพัดพาไปในห้วงน้ำ
เป็นที่พึ่งของผู้ไม่มีญาติ เป็นสรณะของผู้ที่มีภัย
เป็นจุดมุ่งหมายของผู้ต้องการความหลุดพ้น
[315] เสด็จเที่ยวไปผู้เดียว ไม่มีใครเหมือน
ทรงประกอบด้วยพระเมตตากรุณา
ทรงมีปัญญาประกอบด้วยจาคะ
ชำนาญ คงที่ เป็นที่อยู่แห่งคุณ
[316] เป็นนักปราชญ์ ปราศจากความหลง
ไม่ทรงหวั่นไหว ไม่มีความสงสัย
เป็นผู้พอพระทัย ทรงคลายโทสะแล้ว
ไม่มีมลทิน ทรงสำรวม มีความบริสุทธิ์
[317] ล่วงธรรมเครื่องข้อง ปราศจากความเมา
ได้วิชชา 3 ถึงที่สุดภพ ทรงล่วงเขตแดน
เป็นผู้หนักในธรรม ถึงจุดมุ่งหมายแล้ว
ทรงหว่านประโยชน์เกื้อกูล
[318] ทรงช่วยสัตว์ให้ข้ามพ้นเปรียบเหมือนเรือ(พาคนข้ามฟาก)
ทรงมีขุมทรัพย์ ทรงทำความเบาใจ
ไม่ทรงครั่นคร้ามเหมือนราชสีห์
ทรงฝึกแล้วเหมือนพญาคชสารที่ฝึกแล้ว
[319] ครั้งนั้น ครั้นข้าพเจ้าสรรเสริญพระมหามุนี
พระนามว่าปทุมุตตระ ด้วยคาถา 10 คาถา
กราบพระบาทของพระศาสดาแล้วได้ยืนนิ่งอยู่
[320] พระศาสดาพระนามว่าปทุมุตตระ
ผู้ทรงรู้แจ้งโลก ผู้สมควรรับเครื่องบูชา
ประทับยืนอยู่ในท่ามกลางหมู่ภิกษุ ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :625 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [40. ปิลินทวัจฉวรรค] 3. สัพพกิตติกเถราปทาน
[321] เราจักพยากรณ์ผู้ที่สรรเสริญศีล
ปัญญา และธรรมของเรา
ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าวเถิด
[322] ผู้นั้นจักรื่นรมย์อยู่ในเทวโลกตลอด 60,000 กัป
จักครองอิสริยยศปกครองเทวดาเหล่าอื่น
[323] ภายหลังเขาบวชแล้ว ถูกกุศลมูลตักเตือน
จักบวชในศาสนา
ของพระผู้มีพระภาคพระนามว่าโคดม
[324] ครั้นบวชแล้ว เว้นบาปกรรมทางกาย
กำหนดรู้อาสวะทั้งปวง จักเป็นผู้ไม่มีอาสวะ แล้วนิพพาน
[325] เมฆคำรนกระหึ่ม ทำแผ่นดินนี้ให้ชุ่มฉันใด
ข้าแต่พระองค์ผู้มีความเพียรมาก
พระองค์ทรงให้ข้าพระองค์ชุ่มชื่นด้วยธรรมฉันนั้น
[326] ครั้นข้าพเจ้าเชยชมศีล ปัญญา ธรรม
และพระผู้มีพระภาคผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลกแล้ว
ได้บรรลุนิพพานซึ่งเป็นธรรมสงบอย่างยิ่ง เป็นบทไม่จุติ
[327] โอหนอ พระผู้มีพระภาคผู้มีพระจักษุพระองค์นั้น
พึงดำรงอยู่นานแน่
ข้าพเจ้าก็พึงรู้แจ้งธรรมที่ยังไม่รู้แจ้ง พึงเห็นอมตบท
[328] ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของข้าพเจ้า
ภพทั้งปวงข้าพเจ้าถอนได้แล้ว
ข้าพเจ้ากำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :626 }