เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [1. พุทธวรรค] 1. พุทธาปทาน
[30] สำเร็จสีหไสยาสน์บนที่นอนมีค่ามาก
มีสติสัมปชัญญะ ลุกขึ้นแล้ว นั่งขัดสมาธิบนที่นอน
[31] ซึ่งเป็นอารมณ์ของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
แนบแน่นด้วยความยินดีในฌาน
หมู่หนึ่งแสดงธรรม หมู่หนึ่งยินดีด้วยฤทธิ์
[32] หมู่หนึ่งเข้าอัปปนาฌาน
หมู่หนึ่งเจริญอภิญญาวสี1
แสดงฤทธิ์ได้หลายร้อยหลายพันประการ
[33] ฝ่ายพระพุทธเจ้าทั้งหลายก็ถามพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ถึงปัญหาอันเป็นวิสัยแห่งพระสัพพัญญุตญาณ
พระพุทธเจ้าเหล่านั้นก็ทรงรู้แจ้งเหตุอันลึกซึ้งละเอียดอ่อนด้วยปัญญา
[34] สาวกทั้งหลายก็ทูลถามพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
พระพุทธเจ้าทั้งหลายก็ตรัสถามสาวกทั้งหลาย
ทั้งพระพุทธเจ้าและสาวกเหล่านั้นต่างก็ถามตอบกันและกัน
[35] พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และสาวกผู้ปรนนิบัติเหล่านั้น
ต่างรื่นรมย์ยินดีในปราสาทด้วยความยินดีด้วยประการฉะนี้
[36] (พระเจ้าติโลกวิชัยทรงดำริว่า) ฉัตรตั้งซ้อนกัน
มีรัศมีเปล่งปลั่งดังแก้วไพฑูรย์
ขอให้ทุกคนจงกั้นฉัตร มีตาข่ายทองคำห้อยระย้า
ประดับด้วยตาข่ายเงิน
แวดล้อมด้วยตาข่ายแก้วมุกดาไว้เหนือศีรษะข้าพเจ้า
[37] มีเพดานผ้าติดดวงดาวทองมีแสงแวววาว
มีพวงมาลัยห้อยอยู่ทั่วงดงามตระการตา
เพดานผ้าทั้งหมด จงดาดอยู่เหนือศีรษะ

เชิงอรรถ :
1 อภิญญาวสี หมายถึงความชำนาญในอภิญญา 5 ประการ คือ (1) อาวัชชนวสี ชำนาญในการคำนึงถึง
(2) สมาปัชชนวสี ชำนาญในการเข้า (3) วุฏฐานวสี ชำนาญในการออก (4) อธิฏฐานวสี ชำนาญ
ในการอธิษฐาน (5) ปัจจเวกขณวสี ชำนาญในการ พิจารณา (ขุ.อป.อ. 1/32/129)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :6 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [1. พุทธวรรค] 1. พุทธาปทาน
[38] สระที่ดารดาษด้วยพวงมาลัย
งดงามด้วยพวงของหอม1 มีพวงผ้าห้อยระย้า
ประดับประดาด้วยพวงรัตนะ
[39] มีดอกไม้เรียงราย งดงามนัก
อบด้วยของหอมกลิ่นฟุ้งขจายไป
ใช้นิ้วมือทั้ง 5 เจิมด้วยของหอม
มุงด้วยหลังคาทองคำ
[40] ทั้ง 4 ทิศ (แห่งปราสาท) ดารดาษด้วยดอกปทุมและดอกอุบล
ปรากฏเป็นสีทอง หอมฟุ้งด้วยละอองเกสรดอกปทุม
[41] รอบ ๆ ปราสาท ต้นไม้ทุกต้นจงออกดอกบานสะพรั่ง
ดอกไม้หล่นเอง ปลิวไปโปรยปราสาท
[42] ใกล้ ๆ ปราสาทนั้น ขอฝูงนกยูงจงรำแพน (หาง)
ฝูงหงส์ทิพย์จงส่งเสียงร้อง ฝูงนกการเวกจงร้องขับขาน
วิหคก็จงส่งเสียงขับขานอยู่รอบ ๆ ปราสาท
[43] กลองทุกชนิดจงดังขึ้น พิณทุกชนิดจงบรรเลง
เครื่องสังคีตทุกชนิดจงบรรเลงขับกล่อมอยู่รอบ ๆ ปราสาท
[44-45] ตลอดพุทธเขตและในจักรวาล
ต่อจากนั้นจงมีบัลลังก์ทองขนาดใหญ่ เรืองรองด้วยรัศมี
ไม่มีช่องว่าง ขลิบด้วยรัตนะ ตั้งอยู่ (รอบ ๆ ปราสาท)
ขอต้นพฤกษาประทีป2 จงส่องสว่าง
มีแสงโชติช่วงติดต่อเป็นอันเดียวกันทั้ง 10,000 ดวง

เชิงอรรถ :
1 พวงของหอม หมายถึงจันทน์ ดอกบัวบก หรือหญ้าฝรั่นและกฤษณา เป็นต้น (ขุ.อป.อ. 1/38/130)
2 พฤกษาประทีป หมายถึงต้นไม้ที่แขวนตะเกียง, โคมไฟ (ขุ.อป.อ. 1/45/231)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :7 }