เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [40. ปิลินทวัจฉวรรค] 1. ปิลินทวัจฉเถราปทาน
[80] เขาจักปรารถนาเมื่อใด
หลังคาผ้าและดอกไม้(ดังจะ)รู้ความคิดของเขา
จักกั้นอยู่เนืองนิตย์เมื่อนั้น
[81] เขาถูกกุศลมูลตักเตือนจุติจากเทวโลก
แล้วประกอบด้วยบุญกรรม
จักเป็นบุตรของพราหมณ์
[82] ในกัปที่ 100,000 นับจากกัปนี้ไป
พระศาสดาพระนามว่าโคดม ตามพระโคตร
ทรงสมภพในราชสกุลโอกกากราช จักอุบัติขึ้นในโลก
[83] พระผู้มีพระภาคผู้โคดมศากยะผู้ประเสริฐ
ทรงทราบความนั้นทั้งหมดแล้ว
ประทับนั่งในท่ามกลางหมู่ภิกษุ
จักทรงตั้งไว้ในเอตทัคคะ
[84] เขาจักได้เป็นสาวกมีนามว่าปิลินทวัจฉะ ของพระศาสดา
จักเป็นผู้ที่เทวดา อสูร และคนธรรพ์ สักการะ
[85] เขาจักเป็นที่รักของภิกษุ ภิกษุณี
และคฤหัสถ์ทั้งปวง อยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ
(ว่าด้วยอานิสงส์ของทาน)
[86] กรรมที่ข้าพเจ้ากระทำแล้วใน 100,000 กัป
ได้แสดงผลแก่ข้าพเจ้าแล้วในอัตภาพสุดท้ายนี้
ข้าพเจ้าหลุดพ้นดีแล้ว
ดุจความเร็วของลูกศรที่หลุดพ้นไปจากแล่ง
เผากิเลสทั้งหลายได้แล้ว
[87] น่าปลื้มใจ กรรมข้าพเจ้าได้ทำไว้ดีแล้ว
ในเนื้อนาบุญอย่างยอดเยี่ยม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :590 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [40. ปิลินทวัจฉวรรค] 1. ปิลินทวัจฉเถราปทาน
ซึ่งเป็นฐานะที่ข้าพเจ้าทำสักการะแล้ว
ได้บรรลุบทที่ไม่หวั่นไหว1
[88] ก็มาณพใดได้ให้ทานอย่างประเสริฐไม่บกพร่อง
มาณพนั้นได้เป็นหัวหน้าคนแรก
นี้เป็นผลแห่งทานนั้น
(1. อานิสงส์ของการถวายร่ม)
[89] ข้าพเจ้าได้ถวายร่มในพระสุคต
และพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์
ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า 8 ประการ
[90] คือข้าพเจ้าไม่รู้สึกหนาว 1 ไม่รู้สึกร้อน 1
ละอองและธุลีไม่แปดเปื้อน 1 เป็นผู้ไม่มีอันตราย 1
ไม่มีเสนียดจัญไร 1 ชนทั้งหลายยำเกรงทุกเมื่อ 1
[91] เป็นผู้มีผิวพรรณละเอียด 1 เป็นผู้มีใจใสสะอาด 1
เมื่อข้าพเจ้าเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพ
ฉัตร 100,000 คัน
[92] ซึ่งประกอบด้วยเครื่องประดับทุกอย่าง
กั้นอยู่เหนือศีรษะของข้าพเจ้า ยกเว้นชาตินี้
เพราะอานุภาพแห่งกรรมนั้น
[93] เพราะฉะนั้น ในชาตินี้
การกั้นฉัตรจึงไม่มีแก่ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้ากระทำกรรมทุกอย่าง
ก็เพื่อบรรลุฉัตรคือวิมุตติ

เชิงอรรถ :
1 บทที่ไม่หวั่นไหว ได้แก่พระนิพพาน (ขุ.อป.อ. 1/266/276)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :591 }