เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [1. พุทธวรรค] 3. เถราปทาน 1. สารีปุตตเถราปทาน
ข้าพเจ้าตัดกิเลสเครื่องผูกพันได้แล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ
ดุจพญาช้างตัดเครื่องพันธนาการได้อยู่อย่างอิสระ
[373] การที่ข้าพเจ้าได้มาในสำนักของพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐที่สุด
เป็นการมาดีแล้วหนอ
วิชชา 3 ข้าพเจ้าได้บรรลุแล้วโดยลำดับ
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว
[374] คุณวิเศษเหล่านี้คือ ปฏิสัมภิทา 41 วิโมกข์ 82
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว3ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระสารีบุตรเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
สารีปุตตเถราปทานที่ 1 จบ

เชิงอรรถ :
1 ปฏิสัมภิทา 4 คือ (1) อัตถปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในอรรถ, ปรีชาแจ้งในความหมาย (2) ธัมมปฏิ-
สัมภิทา ปัญญาแตกฉานในธรรม, ปรีชาแจ้งในหลัก (3) นิรุตติปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในนิรุตติ
ปรีชาแจ้งในภาษา (4) ปฏิภาณปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในปฏิภาณ, ปรีชาแจ้งในความคิดทันการ มี
ไหวพริบ (องฺ.จตุกฺก. (แปล) 21/172/242-243, ขุ.ป. (แปล) 31/110/170, อภิ.วิ. (แปล) 35/725/
461)
2 วิโมกข์ 8 คือ (1) ผู้มีรูป มองเห็นรูปทั้งหลาย (ได้แก่รูปฌาน 4 ของผู้ได้ฌาน โดยเจริญกสิณที่กำหนด
วัตถุในกายของตน เช่น สีผม) (2) ผู้มีอรูปสัญญาภายใน มองเห็นรูปทั้งหลายภายนอก (ได้แก่ อรูปฌาน
4 ของผู้ได้ฌาน โดยเจริญกสิณกำหนดอารมณ์ภายนอก) (3) ผู้น้อมใจดิ่งไปว่า “งาม” (ได้แก่ ฌานของ
ผู้เจริญวรรณกสิณกำหนดสีที่งาม หรือเจริญอัปปมัญญา) (4) เพราะล่วงเสียซึ่งรูปสัญญาโดย
ประการทั้งปวงเพราะปฏิฆสัญญาดับไป เพระไม่ใส่ใจนานัตตสัญญา จึงเข้าถึงอากาสานัญจายตนะ โดย
มนสิการว่า อากาศหาที่สุดมิได้ (5) เพราะล่วงเสียซึ่งอากาสานัญจายตนะ โดยประการทั้งปวง จึงเข้าถึง
วิญญาณัญจายตนะโดยมนสิการว่า วิญญาณหาที่สุดมิได้ (6) เพราะล่วงเสียซึ่งวิญญาณัญจายตนะโดย
ประการทั้งปวง จึงเข้าถึงอากิญจัญญายตนะโดยมนสิการว่าไม่มีอะไรเลย (7) เพราะล่วงเสียซึ่ง
อากิญจัญญายตนะโดยประการทั้งปวงจึงเข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะอยู่ (8) เพราะล่วงเสียซึ่งเนว-
สัญญานาสัญญายตนะโดยประการทั้งปวงจึงเข้าถึงสัญญาเวทยิตนิโรธอยู่ (ที.ปา. 11/339/231, องฺ.อฏฺฐก.
(แปล) 23/66/253) หรือ ได้แก่ มรรค 4 ผล 4 หรือ รูปฌาน และอรูปฌาน (ขุ.อป.อ. 1/371/286)
3 คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าได้ทำให้สำเร็จแล้ว หมายถึงคำสั่งสอนเป็นอนุศาสนีและโอวาท
ของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าให้สำเร็จด้วยอรหัตตมรรคญาณ (ขุ.อป.อ. 1/741/286)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :58 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [1. พุทธวรรค] 3. เถราปทาน 2. มหาโมคคัลลานเถราปทาน
2. มหาโมคคัลลานเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระมหาโมคคัลลานเถระ
(พระมหาโมคคัลลานเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าว
ว่า)
[375] พระผู้มีพระภาคพระนามว่าอโนมทัสสี
ผู้เจริญที่สุดในโลก ผู้องอาจกว่านรชน
มีหมู่เทวดาห้อมล้อมประทับอยู่ที่ภูเขาหิมพานต์
[376] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าเกิดเป็นพญานาคมีนามว่าวรุณ
เนรมิตรูปได้ตามที่ต้องการ แสดงฤทธิ์ได้ต่าง ๆ
อาศัยอยู่ในทะเลใหญ่
[377] ข้าพเจ้าละหมู่นาคซึ่งเป็นบริวารประจำ ให้เริ่มบรรเลงดนตรี
ในครั้งนั้น หมู่นางนาคแวดล้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว
พากันประโคมดนตรี
[378] เมื่อดนตรีประโคมอยู่ เหล่าเทวดาก็ประโคมดนตรี
พระพุทธเจ้าได้ทรงสดับเสียงดนตรีของทั้ง 2 ฝ่ายแล้วก็ทรงทราบ
[379] ข้าพเจ้านิมนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า1 แล้วเข้าไปยังภพของตน
ปูลาดอาสนะ แล้วจึงกราบทูลเวลา
[380] พระผู้มีพระภาคผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก
มีพระขีณาสพ 1,000 รูป แวดล้อม (ทรงเปล่งรัศมี)
ทำทิศทั้งปวงให้สว่างไสว เสด็จเข้าไปยังภพของข้าพเจ้า
[381] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าอังคาสพระผู้มีพระภาค
ผู้มีความเพียรมาก ผู้เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ ผู้องอาจกว่านรชน
และหมู่ภิกษุให้อิ่มหนำด้วยข้าวและน้ำ

เชิงอรรถ :
1 หมายรวมถึงหมู่พระสาวกด้วย เพื่อฉันในวันรุ่งขึ้น (ขุ.อป.อ. 1/379/288)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :59 }