เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [34. คันโธทกวรรค] 10. อุกขิตตปทุมิยเถราปทาน
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการฟังธรรม
[128] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระธัมมสวนิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ธัมมัสสวนิยเถราปทานที่ 9 จบ

10. อุกขิตตปทุมิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอุกขิตตปทุมิยเถระ
(พระอุกขิตตปทุมิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[129] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าเป็นช่างดอกไม้อยู่ในกรุงหงสวดี
ข้าพเจ้าลงสู่สระปทุมเลือกเก็บดอกบัวอยู่
[130] พระชินเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ
ทรงถึงความสำเร็จแห่งธรรมทั้งปวง
พร้อมด้วยพระขีณาสพประมาณ 100,000 รูป
ผู้จิตสงบ ผู้คงที่
[131] ผู้สิ้นอาสวะ บริสุทธิ์ ได้อภิญญา 6 ผู้เข้าฌาน
พระองค์ผู้เป็นบุรุษสูงสุด ทรงแสวงหาความเจริญ
แก่ข้าพเจ้า เสด็จมาแล้ว
[132] ข้าพเจ้าได้เห็นพระสยัมภูผู้เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ
ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก จึงเด็ดดอกบัวที่ก้าน
แล้วโยนขึ้นไป (บูชา) ในอากาศในกาลนั้น
[133] (ด้วยเปล่งวาจาว่า) ข้าแต่พระธีรเจ้า
ถ้าพระองค์เป็นพระพุทธเจ้าผู้เจริญที่สุดในโลก

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :518 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [34. คันโธทกวรรค] 10. อุกขิตตปทุมิยเถราปทาน
องอาจกว่านรชน ขอดอกบัวจงลอยไปเอง
กั้นอยู่เหนือพระเศียรของพระองค์เองเถิด
[134] พระมหาวีรเจ้าผู้เจริญที่สุดในโลก
องอาจกว่านรชน ทรงอธิษฐานแล้ว
ดอกบัวเหล่านั้นได้ลอยกั้นอยู่
เหนือพระเศียรด้วยพุทธานุภาพ
[135] ด้วยกรรมที่ข้าพเจ้าได้ทำไว้ดีแล้วนั้น
และด้วยการตั้งเจตนาไว้มั่น
ข้าพเจ้าละกายมนุษย์แล้ว
ได้ไปเกิดยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
[136] ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น
วิมานของข้าพเจ้าที่บุญกรรมสร้างไว้
อย่างสวยงาม เรียกชื่อว่าสัตตปัตตะ
สูง 60 โยชน์ กว้าง 30 โยชน์
[137] ข้าพเจ้าได้เกิดเป็นจอมเทพครองเทวสมบัติ 1,000 ชาติ
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 75 ชาติ
[138] และได้เป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์นับชาติไม่ถ้วน
ข้าพเจ้าเสวยกรรมของตนที่ทำไว้ดีแล้วในปางก่อน
[139] ด้วยผลแห่งดอกปทุมดอกเดียวนั้นแล
ข้าพเจ้าได้เสวยสมบัติแล้ว
ได้ทำให้แจ้งธรรมของพระผู้มีพระภาคพระนามว่าโคดม
[140] กิเลสทั้งหลายข้าพเจ้าก็เผาได้แล้ว
ภพทั้งปวงข้าพเจ้าก็ถอนได้แล้ว
ข้าพเจ้าตัดกิเลสเครื่องผูกพันได้แล้วอยู่อย่างไม่มีอาสวะ
ดุจช้างตัดเครื่องพันธนาการได้แล้วอยู่อย่างอิสระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :519 }