เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [34. คันโธทกวรรค] 9. ธัมมัสสวินิยเถราปทาน
ด้วยกุศลกรรมที่ข้าพเจ้าได้ทำไว้ดีแล้วนั้น
จึงได้ไปเกิดยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
[119] ข้าพเจ้ารื่นรมย์อยู่ในเทวโลกตลอด 30,000 กัป
ได้ครองเทวสมบัติ 51 ชาติ
[120] ได้เกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 71 ชาติ
และเป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์นับชาติไม่ถ้วน
[121] พระสมณะผู้อบรมอินทรีย์แล้ว นั่งบนเรือนของบิดา
เปล่งวาจาถึงเรื่องไม่เที่ยง แสดงเป็นคาถา
[122] ข้าพเจ้าระลึกถึงสัญญานั้นได้
เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพน้อยภพใหญ่
ยังไม่ได้รู้แจ้งที่สุดคือพระนิพพาน ซึ่งเป็นหนทางไม่จุติว่า
[123] สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ
มีความเกิดขึ้นและเสื่อมไปเป็นธรรมดา เกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป
ความสงบระงับสังขารเหล่านั้นเป็นเหตุนำความสุขมาให้
[124] ข้าพเจ้าระลึกถึงบุพกรรมได้ พร้อมกับได้ฟังคาถา
นั่งอยู่บนอาสนะเดียวนั่นเองก็ได้บรรลุอรหัตตผลแล้ว
[125] ข้าพเจ้ามีอายุ 7 ขวบ ก็ได้บรรลุอรหัตตผล
พระพุทธเจ้าผู้มีจักษุ ทรงรู้คุณสมบัติของข้าพเจ้าแล้ว
จึงประทานอุปสมบทให้
[126] ข้าพเจ้ายังเป็นเด็กอยู่ ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว
วันนี้ ข้าพเจ้าจะทำกิจอะไร
ในศาสนาของพระศากยบุตรอีกเล่า
[127] ในกัปที่ 100,000 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ทำกรรมไว้ในครั้งนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :517 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [34. คันโธทกวรรค] 10. อุกขิตตปทุมิยเถราปทาน
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการฟังธรรม
[128] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระธัมมสวนิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ธัมมัสสวนิยเถราปทานที่ 9 จบ

10. อุกขิตตปทุมิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอุกขิตตปทุมิยเถระ
(พระอุกขิตตปทุมิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[129] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าเป็นช่างดอกไม้อยู่ในกรุงหงสวดี
ข้าพเจ้าลงสู่สระปทุมเลือกเก็บดอกบัวอยู่
[130] พระชินเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ
ทรงถึงความสำเร็จแห่งธรรมทั้งปวง
พร้อมด้วยพระขีณาสพประมาณ 100,000 รูป
ผู้จิตสงบ ผู้คงที่
[131] ผู้สิ้นอาสวะ บริสุทธิ์ ได้อภิญญา 6 ผู้เข้าฌาน
พระองค์ผู้เป็นบุรุษสูงสุด ทรงแสวงหาความเจริญ
แก่ข้าพเจ้า เสด็จมาแล้ว
[132] ข้าพเจ้าได้เห็นพระสยัมภูผู้เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ
ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก จึงเด็ดดอกบัวที่ก้าน
แล้วโยนขึ้นไป (บูชา) ในอากาศในกาลนั้น
[133] (ด้วยเปล่งวาจาว่า) ข้าแต่พระธีรเจ้า
ถ้าพระองค์เป็นพระพุทธเจ้าผู้เจริญที่สุดในโลก

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :518 }