เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [33. อุมาปุปผิยวรรค] 10. สปริวารฉัตตทายกเถราปทาน
[92] ข้าพเจ้าละกำเนิดมนุษย์แล้วได้ไปเกิดในกำเนิดเทวดา
วิมานของข้าพเจ้าสวยงาม สูงตระหง่าน เป็นที่รื่นรมย์ใจ
[93] เมื่อข้าพเจ้าออกจากวิมาน
เทวดาทั้งหลายย่อมกั้นฉัตรขาวให้
ข้าพเจ้ากลับได้ความทรงจำในครั้งนั้น
นี้เป็นผลแห่งบุพกรรม
[94] ข้าพเจ้าจุติจากเทวโลกแล้ว ได้มาเกิดเป็นมนุษย์
ในกัปที่ 107 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 36 ชาติ
[95] จุติจากกายนั้นแล้วได้ไปสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ท่องเที่ยวไปโดยลำดับแล้ว ได้มาเกิดเป็นมนุษย์อีก
[96] ชนทั้งหลายได้กั้นฉัตรขาวให้ข้าพเจ้า
ผู้ลงมาปฏิสนธิในครรภ์มารดา
ข้าพเจ้ามีอายุ 7 ขวบ ก็ได้ออกบวชเป็นบรรพชิต
[97] พราหมณ์มีนามว่าสุนันทะ จบมนตร์
เขาได้ถือฉัตรมีสีดังแก้วผลึกมาถวายพระอัครสาวก
[98] พระสารีบุตรผู้มีความเพียรมาก
ผู้มีวาจาน่าบูชา อนุโมทนาแล้ว
ข้าพเจ้าฟังอนุโมทนาของท่านแล้ว ระลึกถึงบุพกรรมได้
[99] จึงประนมมือ ทำจิตของตนให้เลื่อมใส
ระลึกถึงกรรมเก่าแล้วได้บรรลุอรหัตตผล
[100] ลุกจากอาสนะนั้นแล้วประนมมือไว้เหนือเศียรเกล้า
ถวายอภิวาทพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว เปล่งวาจานี้ว่า

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :497 }