เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [19. กุฏชปุปผิยวรรค] 2. พันธุชีวกเถราปทาน
2. พันธุชีวกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระพันธุชีวกเถระ
(พระพันธุชีวกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[6] พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าโสภิตะ
ผู้ซึ่งสัตบุรุษสรรเสริญแล้ว
พระองค์ประทับนั่งเข้าสมาธิอยู่ในระหว่างภูเขา
[7] ข้าพเจ้าแสวงหาดอกบัวงามในสระธรรมชาติ
แต่ได้เห็นดอกชบาในที่ใกล้
[8] ข้าพเจ้ามีจิตเลื่อมใส มีใจยินดี
ใช้มือทั้ง 2 ประคองแล้ว
เข้าเฝ้าพระมหามุนี แล้วบูชาพระโสภิตพุทธเจ้า
[9] ในกัปที่ 94 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[10] ในกัปที่ 14 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่งมีพระนามว่าสมุททกัปปะ
ผู้เป็นใหญ่ในหมู่ชน มีพลานุภาพมาก
[11] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระพันธุชีวกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
พันธุชีวกเถราปทานที่ 2 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :348 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [19. กุฏชปุปผิยวรรค] 3. โกฏุมพริยเถราปทาน
3. โกฏุมพริยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระโกฏุมพริยเถระ
(พระโกฏุมพริยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[12] พระผู้มีพระภาค ผู้รุ่งเรืองดังดอกกรรณิการ์
มีพระคุณหาประมาณมิได้ดุจทะเล แผ่กว้างดังแผ่นดิน
ประทับนั่งอยู่ในระหว่างภูเขา
[13] อันหมู่เทวดาบูชาแล้ว ดุจม้าอาชาไนยตัวองอาจ
ผู้สูงสุดแห่งนรชน
ข้าพเจ้ามีจิตร่าเริง เบิกบาน จึงเข้าเฝ้าพระองค์
[14] ข้าพเจ้าได้ประคองดอกไม้ และผ้าขนสัตว์เนื้อดี
บูชาพระพุทธเจ้าพระนามว่าสิขี ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ของโลก
[15] ในกัปที่ 31 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[16] ในกัปที่ 20 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่งมีพระนามว่ามหาเนละ
มีเดชมาก มีพลานุภาพมาก
[17] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระโกฏุมพริยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
โกฏุมพริยเถราปทานที่ 3 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :349 }