เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [15. ฉัตตวรรค] 2. ถัมภาโรปกเถราปทาน
2. ถัมภาโรปกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระถัมภาโรปกเถระ
(พระถัมภาโรปกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[5] เมื่อพระผู้มีพระภาคผู้ทรงเป็นที่พึ่ง
ของสัตว์โลกพระนามว่าธัมมทัสสี
ทรงองอาจกว่านรชน เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว
ข้าพเจ้าได้ยกเสาธงขึ้นไว้
ที่เจดีย์ของพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐที่สุด
[6] ข้าพเจ้าให้นายช่างสร้างบันได
แล้วขึ้นสู่พระสถูปที่ประเสริฐ
ได้ถือดอกมะลิไปบูชาที่พระสถูป
[7] ช่างน่าอัศจรรย์ พระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ช่างน่าอัศจรรย์ พระธรรมทั้งหลาย
ช่างน่าอัศจรรย์ การที่ข้าพเจ้าได้มาประจวบพระศาสดา
ข้าพเจ้าจึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระสถูป
[8] ในกัปที่ 94 นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 16 ชาติ
มีพระนามว่าถูปสิขะ มีพลานุภาพมาก
[9] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระถัมภาโรปกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ถัมภาโรปกเถราปทานที่ 2 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :307 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [15. ฉัตตวรรค] 3. เวทิการกเถราปทาน
3. เวทิการกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระเวทิการกเถระ
(พระเวทิการกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[10] เมื่อพระผู้มีพระภาค ผู้ทรงเป็นที่พึ่งของสัตว์โลก
พระนามว่าปิยทัสสี ทรงเป็นผู้สูงสุดแห่งนรชน
เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว
ข้าพเจ้ามีจิตเลื่อมใส มีใจยินดี
ได้กระทำแท่นสำหรับบูชาพระพุทธเจ้า
[11] ข้าพเจ้าให้ประดับล้อมไว้ด้วยแก้วมณีแล้ว
ได้กล่าวสรรเสริญพระพุทธเจ้าผู้สูงสุด
ทำการฉลองแท่นสำหรับบูชาแล้ว
ก็ได้สิ้นชีวิตลง ณ ที่นั้นเอง
[12] ข้าพเจ้าเกิดในกำเนิดใด ๆ
คือจะเกิดเป็นเทวดาหรือมนุษย์ก็ตาม
ในกำเนิดนั้น ๆ เทวดาทั้งหลายย่อมทรงแก้วมณีไว้ในอากาศ
นี้เป็นผลแห่งบุญกรรม
[13] ในกัปที่ 116 นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 32 ชาติ
มีพระนามว่ามณีปภา มีพลานุภาพมาก
[14] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระเวทิการกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
เวทิการกเถราปทานที่ 3 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :308 }