เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [6. วีชนีวรรค] 4. คันโธทกทายกเถราปทาน
เปรียบเหมือนพืชที่มีความสมบูรณ์ในนาดี
นี้เป็นผลแห่งการถวายที่นอนนั้น
[22] ข้าพเจ้านอนในอากาศได้
ทรงแผ่นดินนี้ไว้ได้ เป็นใหญ่ในสัตว์ทั้งหลาย
นี้เป็นผลแห่งการถวายที่นอน
[23] ในกัปที่ 5,000 (นับจากกัปนี้ไป)
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 8 ชาติ มีความเพียรมาก
ในกัปที่ 3,400 (นับจากกัปนี้ไป)
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 4 ชาติ มีพลานุภาพมาก
[24] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระสยนทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
สยนทายกเถราปทานที่ 3 จบ

4. คันโธทกทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระคันโธทกทายกเถระ
(พระคันโธทกทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[25] ครั้งนั้น ได้มีการฉลองต้นมหาโพธิ์ของพระพุทธเจ้า
พระนามว่าปทุมุตตระ ข้าพเจ้าได้ถือหม้อน้ำอันวิจิตร
ได้ถวายน้ำหอมรดต้นมหาโพธิ์
[26] ก็ในเวลาที่รดต้นมหาโพธิ์
เมฆฝนเป็นอันมากได้ตกลงมาและได้มีเสียงบันลือดังลั่น
ในเมื่อสายฟ้าฟาดลงมา
[27] ด้วยกำลังแห่งสายฟ้าฟาดลงมานั้นแล
ข้าพเจ้าได้สิ้นชีวิต ณ ที่นั้น
ไปเกิดบนเทวโลก ได้กล่าวคาถาเหล่านี้ว่า

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :191 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [6. วีชนีวรรค] 5. โอปวุยหเถราปทาน
[28] ช่างน่าอัศจรรย์ พระพุทธเจ้า
ช่างน่าอัศจรรย์ พระธรรม
ช่างน่าอัศจรรย์ การที่ข้าพเจ้าได้ประจวบกับพระศาสดา
ร่างกายของข้าพเจ้าล้มตายลงไปแล้ว
ข้าพเจ้าได้รื่นรมย์ในเทวโลก
[29] วิมานของข้าพเจ้ามี 7 ชั้น สูงตระหง่าน
นางเทพกัญญา 100,000 นาง แวดล้อมข้าพเจ้าทุกเมื่อ
[30] ข้าพเจ้าไม่มีความเจ็บไข้
ไม่มีความเศร้าโศก ไม่ประสบความเร่าร้อนเลย
นี้เป็นผลแห่งบุญกรรม
[31] ในกัปที่ 2,800 (นับจากกัปนี้ไป)
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่าสังวสิตะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ 7 ประการ มีพลานุภาพมาก
[32] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระคันโธทกทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
คันโธทกทายกเถราปทานที่ 4 จบ

5. โอปวุยหเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระโอปวุยหเถระ
(พระโอปวุยหเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[33] ข้าพเจ้าได้ถวายม้าอาชาไนยแด่พระพุทธเจ้า
พระนามว่าปทุมุตตระ ครั้นมอบถวายแด่พระสัมพุทธเจ้าแล้ว
ได้กลับไปยังเรือนของตน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :192 }