เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [5. อุปาลิวรรค] 2. โสณโกฬิวิสเถราปทาน
[40] นางกษัตริย์ ครั้นประสูติพระราชบุตร
และพระราชบุตรี 9 พระองค์แล้วจักสวรรคต
และพระเจ้าโอกกากราชจักทรงอภิเษกนางกัญญา
ผู้เป็นที่รักแรกรุ่นดรุณีเป็นพระมเหสี
[41] พระนางกัญญาจักทำให้พระเจ้าโอกกากราช
ทรงพอพระทัยแล้วได้พร
พระนางได้พรแล้วจักให้เนรเทศ
พระราชบุตรและพระราชบุตรี
[42] พระราชบุตรและพระราชบุตรีทั้งหมดนั้น
ถูกเนรเทศแล้วจักไปยังภูเขาสูงสุด
พระราชบุตรทั้งหมดจักสมสู่กับพระกนิษฐภคินี
เพราะกลัวว่าชาติตระกูลจะระคนกัน
[43] ส่วนพระเชษฐกัญญาพระองค์หนึ่งจักถูกพยาธิกลุ้มรุม
กษัตริย์ทั้งหลายจักซ่อนไว้ด้วยคิดว่า
ชาติตระกูลของพวกเราอย่าแตกสลายเลย
[44] กษัตริย์องค์หนึ่งจึงนำพระเชษฐกัญญานั้นมาสมสู่อยู่ด้วยกัน
ความเกิดแห่งวงศ์โอกกากราชจักแยกกันในครั้งนั้น
[45] โอรสของกษัตริย์เหล่านั้นจักมีพระนามว่าโกลิยะ โดยพระชาติ
จักได้เสวยโภคสมบัติ อันเป็นของมนุษย์มิใช่น้อยในภพนั้น
[46] ผู้นี้จุติจากกายนั้นแล้วจักไปเกิดยังเทวโลก
แม้ในเทวโลกนั้นจักได้วิมานอย่างประเสริฐ น่ารื่นรมย์ใจ
[47] เขาถูกกุศลมูลตักเตือนแล้วจักจุติจากเทวโลก
มาเกิดเป็นมนุษย์ มีชื่อว่าโสณะ
[48] จักบำเพ็ญเพียร มีจิตเด็ดเดี่ยว
บำเพ็ญเพียรในศาสนาของพระศาสดา
จักกำหนดรู้อาสวะทั้งปวง เป็นผู้ไม่มีอาสวะแล้วนิพพาน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :172 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [5. อุปาลิวรรค] 2. โสณโกฬิวิสเถราปทาน
[49] พระผู้มีพระภาคพระนามว่าโคดมศากยะ
ผู้ประเสริฐ ทรงรู้วิเศษ มีความเพียรมาก ทรงเห็นคุณไม่มีที่สุด
จักทรงตั้งเขาไว้ในตำแหน่งอันเลิศ
[50] เมื่อฝนตกแล้ว หญ้ายาวประมาณ 4 องคุลี
ยืนต้นอยู่ที่พื้นถูกลมพัดโชย
สำหรับพระโยคาวจรผู้ประกอบความเพียร ผู้คงที่
ไม่มีอะไรจะยอดเยี่ยมยิ่งไปกว่าต้นหญ้านั้น1
[51] ข้าพเจ้าได้ฝึกฝนตน ในการฝึกอย่างสูงสุด
จิตข้าพเจ้าก็ตั้งไว้ดีแล้ว
ภาระทั้งหมดข้าพเจ้าก็ปลงลงแล้ว
ข้าพเจ้าเป็นผู้ไม่มีอาสวะ นิพพานแล้ว
[52] พระผู้มีพระภาคพระนามว่าอังคีรสมหานาค2
ทรงเป็นอภิชาตบุตร ผู้ดุจพญาราชสีห์
ประทับนั่งในท่ามกลางหมู่ภิกษุแล้ว
ทรงแต่งตั้งข้าพเจ้าไว้ในตำแหน่งอันเลิศ
[53] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระโสณโกฬิวิสเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
โสณโกฬิวิสเถราปทานที่ 2 จบ

เชิงอรรถ :
1 เดิมแปลว่า “เมื่อฝนตกในที่ประชุม 4 นิ้ว หญ้าประมาณหนึ่งองคุลีถูกซัดแล้ว พระผู้มีพระภาคผู้คงที่
ซึ่งประกอบความเพียร ความถึงที่สุด ไม่มียิ่งขึ้นไปกว่านั้น” คำว่า ...องฺคลุมฺห ประมาณหนึ่งองคุลี”
ฉบับพม่าและ ขุ.เถร.อ. 2/257 เป็น “...องฺคณมฺหิ ที่พื้น (เนิน)” คำว่า “ปารมตา เดิมแปลว่า
ความถึงที่สุด” แปลใหม่ว่า “ยอดเยี่ยม”
2 ชื่อว่าอังคีรส เพราะมีรัศมีเปล่งออกจากพระสรีระ ชื่อว่านาค เพราะไม่ไปยังอบาย 4 เพราะฉันทาคติ
โทสาคติ โมหาคติ และภยาคติ หรือเพราะประพฤติชั่ว ชื่อว่ามหานาค เพราะเป็นใหญ่อันบุคคลบูชา
แล้วและเป็นผู้ประเสริฐ (อังคีรสมหานาค จึงหมายถึงผู้มีรัศมีเปล่งออกจากพระสรีระเป็นผู้ไม่ไปในอบาย 4
และเป็นผู้ประเสริฐ)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :173 }