เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [5. อุปาลิวรรค] 1. อุปาลิเถราปทาน
[15] เขาจักเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 25 ชาติ
จักเป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์ นับชาติไม่ถ้วน
[16] ในกัปที่ 100,000 (นับจากกัปนี้ไป)
พระศาสดาพระนามว่าโคดม ตามพระโคตร
ทรงสมภพในราชสกุลโอกกากราช จักอุบัติขึ้นในโลก
[17] เขาถูกกุศลมูลตักเตือนแล้วจุติจากสวรรค์ชั้นดุสิตแล้ว
จักเป็นคนต่ำต้อยโดยชาติกำเนิด ชื่อว่าอุบาลี
[18] ภายหลัง เขาบวชแล้ว คลายบาปได้
กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงเป็นผู้ไม่มีอาสวะแล้วนิพพาน
[19] อนึ่ง พระโคดมพุทธเจ้าผู้ศากยบุตร มีพระยศยิ่งใหญ่
ทรงยินดีแล้ว จักตั้งเขาไว้ในเอตทัคคะว่า
เป็นผู้เชี่ยวชาญทางพระวินัย
[20] ข้าพเจ้าบวชด้วยศรัทธา
ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว ไม่มีอาสวะ
กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ
[21] อนึ่ง พระผู้มีพระภาคทรงอนุเคราะห์ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในทางพระวินัย
และปรารภกรรมของตนอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ
[22] ข้าพเจ้าสำรวมในพระปาติโมกข์และในอินทรีย์ 5
ทรงพระวินัยทั้งหมด ซึ่งเป็นบ่อเกิดรัตนะทั้งมวลไว้
[23] พระศาสดาผู้ยอดเยี่ยมในโลก
ทรงทราบคุณสมบัติของข้าพเจ้า
ประทับนั่งในท่ามกลางหมู่ภิกษุแล้ว
ทรงแต่งตั้งข้าพเจ้าไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :169 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [5. อุปาลิวรรค] 2. โสณโกฬิวิสเถราปทาน
[24] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระอุบาลีเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
อุปาลิเถราปทานที่ 1 จบ

2. โสณโกฬิวิสเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระโสณโกฬิวิสเถระ
(พระโสณโกฬิวิสเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[25] ข้าพเจ้าได้ให้ก่อสร้างที่จงกรมฉาบทาด้วยปูนขาว
ถวายพระผู้มีพระภาคผู้เป็นพระมุนีพระนามว่าอโนมทัสสี
ผู้เจริญที่สุดในโลก ผู้คงที่
[26] ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้สีต่าง ๆ ลาดที่จงกรม
และทำให้เป็นเพดานไว้ในอากาศ
แล้วกราบทูลพระพุทธเจ้าผู้สูงสุดให้ทรงใช้สอย
[27] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าประคองอัญชลีถวายอภิวาทพระองค์
ผู้มีวัตรดีงาม แล้วมอบถวายศาลายาวแด่พระผู้มีพระภาค
[28] พระผู้มีพระภาคผู้ศาสดา ผู้ยอดเยี่ยมในโลก
ผู้มีพระจักษุ ทรงทราบความดำริของข้าพเจ้า
แล้วทรงรับไว้ด้วยความอนุเคราะห์
[29] พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นทักขิไณยบุคคลในโลก
พร้อมทั้งเทวโลก ครั้นทรงรับแล้ว
จึงประทับนั่งในท่ามกลางหมู่ภิกษุแล้วได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า
[30] เราจักพยากรณ์ผู้ที่มีจิตเบิกบาน ซึ่งได้ถวายศาลายาวแก่เรา
ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าวเถิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :170 }