เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [4. กุณฑธานวรรค] 3. มหากัจจายนเถราปทาน
[30] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระสาคตเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
สาคตเถราปทานที่ 2 จบ

3. มหากัจจายนเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระมหากัจจายนเถระ
(พระมหากัจจายนเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[31] พระเจดีย์(วิหารที่ประทับ)ชื่อว่าปทุมะ
ของพระผู้มีพระภาคผู้เป็นที่พึ่งพระนามว่าปทุมุตตระ
ข้าพเจ้าให้ทำแผ่นศิลาไว้ภายใต้แล้วใช้ทองคำไล้ทาแผ่นศิลานั้น
[32] และได้กั้นฉัตรซึ่งทำด้วยรัตนะแล้ว
ถือพัดวาลวีชนีพัดถวายพระพุทธเจ้า
ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ของสัตว์โลก ผู้คงที่
[33] ภุมมเทวดา(เทวดาผู้อาศัยอยู่บนแผ่นดิน)
มาประชุมกันทั้งหมดเท่าที่มีในครั้งนั้น
ด้วยหวังว่า พระศาสดาจักตรัสผลแห่งการกั้นฉัตรซึ่งทำด้วยรัตนะ
[34] พวกเราจักฟังพระศาสดาตรัสเรื่องทั้งหมดนั้น
จะพึงเกิดความร่าเริงอย่างยิ่งในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
[35] พระผู้มีพระภาคผู้เป็นพระสยัมภู
เป็นบุคคลผู้เลิศประทับนั่งบนอาสนะทองแล้ว
มีหมู่ภิกษุห้อมล้อม ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า
[36] เราจักพยากรณ์ผู้ที่ได้ถวายอาสนะซึ่งทำด้วยทอง
และกั้นฉัตรซึ่งทำด้วยรัตนะนี้
ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าวเถิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :154 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [4. กุณฑธานวรรค] 3. มหากัจจายนเถราปทาน
[37] ผู้นั้นจักเป็นจอมเทพครองเทวสมบัติ 30 กัป
จักแผ่รัศมีไป 100 โยชน์โดยรอบ
[38] ผู้นั้นจักมาเกิดยังมนุษยโลก เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ
มีพระนามว่าปภัสสระ จักเป็นผู้มีเดชแผ่ไป
[39] ผู้นั้นจักได้เป็นกษัตริย์
ส่องสว่างไป 8 ศอก โดยรอบทั้งกลางวันกลางคืน
เหมือนดวงอาทิตย์อุทัย ฉะนั้น
[40] ในกัปที่ 100,000 (นับจากกัปนี้ไป)
พระศาสดาพระนามว่าโคดม ตามพระโคตร
ทรงสมภพในราชสกุลโอกกากราช จักอุบัติขึ้นในโลก
[41] ผู้นั้นถูกกุศลมูลตักเตือนแล้ว
จักจุติจากสวรรค์ชั้นดุสิต
มาเกิดเป็นบุตรของพราหมณ์มีนามว่ากัจจานะ ตามโคตร
[42] ภายหลังเขาออกบวชแล้วจักสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ไม่มีอาสวะ
พระโคดมผู้ส่องโลกให้โชติช่วงจักตั้งเขาไว้ในอตทัคคะ
[43] เขาจักตอบปัญหาที่ถูกถามอย่างย่อได้โดยพิสดาร
และเมื่อตอบปัญหานั้น จักทำอัธยาศัยให้เต็มได้
[44] ข้าพเจ้าเป็นพราหมณ์ผู้อภิชาตบุตรในตระกูลที่มั่งคั่ง
จบมนตร์ สละทรัพย์และข้าวเปลือกแล้ว
ออกบวชเป็นบรรพชิต
[45] เมื่อถูกถามปัญหาแม้โดยย่อ
ข้าพเจ้าก็กล่าวแก้ได้โดยพิสดาร
ทำอัธยาศัยของชนเหล่านั้นให้เต็ม
ให้พระผู้มีพระภาคผู้สูงสุดแห่งเทวดาและมนุษย์ทรงพอพระทัยได้
[46] พระมหาวีระผู้เป็นพระสยัมภู เป็นบุคคลผู้เลิศ
ข้าพเจ้าทำให้ทรงพอพระทัยแล้ว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :155 }