เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [4. กุณฑธานวรรค] 2. สาคตเถราปทาน
[21] แม้พระองค์ทรงเป็นสัพพัญญู
เปรียบด้วยนายเกวียนทรงแสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่
ทรงชักนำชนจำนวนมากออกจากทางผิดแล้วตรัสบอกทางถูก1
[22] ทรงฝึกพระองค์แล้ว มีหมู่ภิกษุผู้ฝึกตนห้อมล้อมแล้ว
มีปกติเข้าฌาน มีหมู่ภิกษุห้อมล้อมผู้ยินดีในฌาน
มีความเพียร ห้อมล้อมด้วยผู้มีจิตเด็ดเดี่ยว
สงบระงับ ผู้คงที่
[23] พระองค์ประดับด้วยสาวกบริษัท
ทรงงดงามด้วยพระญาณที่เกิดจากบุญ
พระองค์มีพระรัศมีพวยพุ่งดังดวงอาทิตย์อุทัย ฉะนั้น
[24] พระศาสดาพระนามว่าปทุมุตตระ ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่
ทอดพระเนตรเห็นข้าพเจ้าผู้มีจิตเลื่อมใสแล้ว
ประทับยืนอยู่ในท่ามกลางหมู่ภิกษุได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า
[25] พราหมณ์ใดเกิดความร่าเริงแล้วสรรเสริญเรา
พราหมณ์นั้นจักรื่นรมย์ในเทวโลก 100,000 กัป
[26] เขาถูกกุศลมูลตักเตือนแล้วจุติจากสวรรค์ชั้นดุสิต
จักบวชในศาสนาของพระผู้มีพระภาคพระนามว่าโคดม
[27] ครั้นบวชในศาสนาแล้วจักได้ความยินดีและความร่าเริง
มีนามว่าสาคตะ เป็นสาวกของพระศาสดา”
[28] ข้าพเจ้าครั้นบวชแล้ว เว้นกายทุจริต
ละวจีทุจริต ชำระอาชีวะให้บริสุทธิ์
[29] ข้าพเจ้าอยู่อย่างนี้ เป็นผู้ฉลาดในเตโชธาตุ (ธาตุไฟ)
กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว อยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ

เชิงอรรถ :
1 ทางถูก ในที่นี้หมายถึงอุบายเครื่องบรรลุนิพพานซึ่งเป็นทางของสัตบุรุษ (ขุ.อป.อ. 2/21/63)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :153 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [4. กุณฑธานวรรค] 3. มหากัจจายนเถราปทาน
[30] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระสาคตเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
สาคตเถราปทานที่ 2 จบ

3. มหากัจจายนเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระมหากัจจายนเถระ
(พระมหากัจจายนเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[31] พระเจดีย์(วิหารที่ประทับ)ชื่อว่าปทุมะ
ของพระผู้มีพระภาคผู้เป็นที่พึ่งพระนามว่าปทุมุตตระ
ข้าพเจ้าให้ทำแผ่นศิลาไว้ภายใต้แล้วใช้ทองคำไล้ทาแผ่นศิลานั้น
[32] และได้กั้นฉัตรซึ่งทำด้วยรัตนะแล้ว
ถือพัดวาลวีชนีพัดถวายพระพุทธเจ้า
ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ของสัตว์โลก ผู้คงที่
[33] ภุมมเทวดา(เทวดาผู้อาศัยอยู่บนแผ่นดิน)
มาประชุมกันทั้งหมดเท่าที่มีในครั้งนั้น
ด้วยหวังว่า พระศาสดาจักตรัสผลแห่งการกั้นฉัตรซึ่งทำด้วยรัตนะ
[34] พวกเราจักฟังพระศาสดาตรัสเรื่องทั้งหมดนั้น
จะพึงเกิดความร่าเริงอย่างยิ่งในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
[35] พระผู้มีพระภาคผู้เป็นพระสยัมภู
เป็นบุคคลผู้เลิศประทับนั่งบนอาสนะทองแล้ว
มีหมู่ภิกษุห้อมล้อม ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า
[36] เราจักพยากรณ์ผู้ที่ได้ถวายอาสนะซึ่งทำด้วยทอง
และกั้นฉัตรซึ่งทำด้วยรัตนะนี้
ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าวเถิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :154 }