พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [3. สุภูติวรรค] 9. เอกัญชลิกเถราปทาน
9. เอกัญชลิกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระเอกัญชลิกเถระ
(พระเอกัญชลิกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[180] พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีพระฉวีวรรณดังทองคำ
พระนามว่าวิปัสสี ทรงเปรียบด้วยนายเกวียนผู้เลิศ
ผู้เป็นนรชนผู้ประเสริฐ ทรงเป็นผู้นำโดยวิเศษ
กำลังเสด็จไปในระหว่างร้านตลาด
[181] ทรงฝึกผู้ที่ยังไม่ได้รับการฝึก ผู้คงที่
เป็นเจ้าลัทธิใหญ่ มีปัญญามาก
ข้าพระองค์ได้เห็นแล้วจึงเป็นผู้เลื่อมใส
มีใจยินดีแล้วได้ประคองอัญชลี
[182] ในกัปที่ 91 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ประคองอัญชลีไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการประคองอัญชลี
[183] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระเอกัญชลิกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
เอกัญชลิกเถราปทานที่ 9 จบ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [3. สุภูติวรรค] 10. โขมทายกเถราปทาน
10. โขมทายกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระโขมทายกเถระ
(พระโขมทายกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[184] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าเป็นพ่อค้าอาศัยอยู่ในกรุงพันธุมดี
ได้เลี้ยงดูภรรยาด้วยการค้าขายนั้น และปลูกพืชสมบัติ1
[185] ข้าพเจ้าต้องการบุญกุศล
จึงได้ถวายผ้าเปลือกไม้ผืนหนึ่ง
แด่พระศาสดาทรงพระนามว่าวิปัสสี
ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ ซึ่งเสด็จดำเนินอยู่ที่ถนน
[186] ในกัปที่ 91 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายผ้าเปลือกไม้ไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายผ้าเปลือกไม้
[187] ในกัปที่ 27 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้เกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่ง
พระนามว่าสินธวสันทนะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ 7 ประการ เป็นใหญ่ในทวีปทั้ง 4
[188] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระโขมทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
โขมทายกเถราปทานที่ 10 จบ
สุภูติวรรคที่ 3 จบบริบูรณ์
ภาณวารที่ 4 จบ
เชิงอรรถ :
1 พืชสมบัติ หมายถึงบุญมีทานและศีลเป็นต้น (ขุ.อป.อ. 2/184/55)
