เมนู

พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรีคาถา [15. จัตตาฬีสนิบาต] 1. อิสิทาสีเถรีคาถา
[447] ภายหลัง บุตรของนายกองเกวียนนั้นชื่อคิริทาส
เห็นดิฉันเป็นสาวรุ่นอายุ 16 ปี
ก็มีจิตปฏิพัทธ์ จึงขอไปเป็นภรรยา
[448] แต่นายคิริทาสนั้น มีภรรยาอยู่ก่อนคนหนึ่ง
เป็นคนมีศีล มีคุณธรรม และมีชื่อเสียง
รักใคร่สามีอย่างดียิ่ง ดิฉันได้ทำให้สามีเกลียดนาง
[449] ข้อที่สามีทั้งหลาย เลิกร้างดิฉัน
ซึ่งปรนนิบัติอยู่เสมือนสาวใช้ไป
ก็เป็นผลกรรมที่ดิฉันนั้นกระทำแล้วในครั้งนั้น
ดิฉันสิ้นสุดกรรมนั้นแล้ว
จัตตาฬีสนิบาต จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :628 }


พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรีคาถา [16. มหานิบาต] 1. สุเมธาเถรีคาถา
16. มหานิบาต
1. สุเมธาเถรีคาถา
ภาษิตพระสุเมธาเถรี
ทราบว่า พระสุเมธาเถรีได้กล่าวภาษิตเหล่านี้ว่า
[450] เราเป็นธิดาของพระอัครมเหสีพระเจ้าโกญจะกรุงมันตาวดี ชื่อว่า
สุเมธา ผู้ที่พระอริยเจ้าทั้งหลายผู้ทำตามคำสั่งสอน
ทำให้เกิดเลื่อมใสแล้ว
[451] เจ้าหญิงสุเมธามีศีล กล่าวธรรมได้วิจิตร
เป็นพหูสูต ถูกแนะนำในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
เข้าเฝ้าพระชนกและพระชนนี กราบทูลว่า
“ขอพระชนกพระชนนีทั้ง 2 พระองค์
โปรดตั้งพระทัยสดับคำของลูก
[452] ลูกยินดีอย่างยิ่งในนิพพาน
ภพถึงแม้ว่าจะเป็นทิพย์ก็ไม่ยั่งยืน
จะกล่าวไปใยถึงกามทั้งหลายซึ่งเป็นของว่างเปล่า
มีความยินดีน้อย มีความคับแค้นมาก
[453] กามทั้งหลายเผ็ดร้อน เปรียบด้วยงูพิษ
ที่พวกคนเขลาหมกมุ่นอยู่
พวกคนเขลาเหล่านั้นแออัดกันในนรก
ต้องประสบทุกข์เดือดร้อนอยู่เป็นเวลาช้านาน
[454] พวกคนเขลาไม่สำรวมกายวาจาและใจ ทำแต่ความชั่ว
พอกพูนแต่ความชั่วย่อมโศร้าโศกในอบายทุกเมื่อ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :629 }