เมนู

พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรีคาถา [14. ติงสนิบาต] 1. สุภาชีวกัมพวนิกาเถรีคาถา
[374] อนึ่ง ต้นไม้ทั้งหลายมีดอกบานแล้ว
ต้องลมไหวระริก ดุจจะมีเสียงครวญอยู่
แม่นางจักมีความยินดีอะไร
ถ้าแม่นางจักเข้าป่าเพียงผู้เดียว
[375] ป่าใหญ่มีหมู่สัตว์ร้ายอาศัยอยู่
คลาคล่ำไปด้วยช้างพลายตกมัน
และช้างพัง ไม่มีผู้คน น่าสะพรึงกลัว
แม่นางไม่มีเพื่อน ยังปรารถนาจะเข้าไปหรือ
[376] แม่นางงามไม่มีใครเปรียบ
แม่นางท่องเที่ยวไป
เหมือนตุ๊กตาที่นายช่างผู้ชาญฉลาดทำแล้วด้วยทองคำสีสุก
งดงามด้วยผ้าสวยเนื้อละเอียดของแคว้นกาสี
ดังเทพอัปสรเที่ยวไปในสวนจิตรลดาเชียวละ
[377] ถ้าเราทั้งสองได้อยู่ร่วมกันในกลางป่า
ฉันจะยอมอยู่ในอำนาจของแม่นาง
แม่นางผู้มีดวงตาหยาดเยิ้มดังกินรี
เพราะคนที่น่ารักกว่าแม่นางสำหรับฉันไม่มีเลย
[378] ถ้าแม่นางเชื่อฉัน ก็จะมีความสุข
มาสิ มาครองเรือนกัน
แม่นางจะได้อยู่บนปราสาทที่ปราศจากลมพัด
หญิงทั้งหลายจะคอยรับใช้แม่นาง
[379] แม่นาง จงนุ่งห่มผ้าเนื้อละเอียดของแคว้นกาสี
จงตกแต่งร่างกาย สวมมาลัย ลูบไล้ประเทืองผิว
ฉันจะทำเครื่องประดับต่าง ๆ มากชนิด
ที่เป็นทองคำแก้วมณีและมุกดาให้แม่นาง

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :617 }