เมนู

พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรีคาถา [5. ปัญจกนิบาต] 8. โสณาเถรีคาถา
[98] เรานั้นละบุตรธิดา ทรัพย์ และข้าวเปลือก
โกนผมแล้วบวชเป็นบรรพชิต
[99] เป็นสิกขมานาอยู่ เจริญมรรคเบื้องสูง จึงละราคะ โทสะ
และอาสวะทั้งหลายที่ประกอบด้วยราคะและโทสะนั้นได้
[100] อุปสมบทเป็นภิกษุณีแล้ว ระลึกชาติก่อนได้
ชำระทิพยจักษุที่อบรมแล้วอย่างดีให้หมดมลทินได้
[101] เห็นสังขารทั้งหลายเป็นอนัตตาอันเกิดแต่เหตุ
มีสภาวะทรุดโทรมโดยความเป็นอนัตตาแล้วละอาสวะทั้งปวงได้
จึงเป็นผู้เย็นดับสนิทแล้ว

8. โสณาเถรีคาถา
ภาษิตของพระโสณาเถรี
พระโสณาเถรี(ได้กล่าวภาษิตเหล่านี้ว่า)
[102] ในเรือนร่างคือรูปนี้ เราคลอดบุตร 10 คน
เพราะเหตุนั้น จึงทรุดโทรมแก่ไป ได้เข้าไปหาภิกษุณี
[103] ภิกษุณีนั้นแสดงธรรม คือ ขันธ์ อายตนะ และธาตุแก่เรา
เราฟังธรรมของท่านแล้วก็โกนผมบวช
[104] เมื่อเราศึกษาอยู่ ก็ชำระทิพยจักษุให้หมดจด
ระลึกถึงชาติก่อนที่เราเคยอยู่อาศัยมา
[105] และเจริญอนิมิตตสมาธิ1 มีจิตตั้งมั่นดี มีอารมณ์เดียว
มีวิโมกข์2เกิดขึ้นในลำดับ ไม่ยึดมั่น ดับสนิทแล้ว

เชิงอรรถ :
1 สมาธิที่พิจารณาธรรมไม่มีนิมิต ได้แก่ วิปัสสนาที่ให้ถึงความหลุดพ้นด้วยอำนาจอนิจจลักษณะ (ที.ปา.อ.
9/305)
2 ความหลุดพ้นที่เกิดขึ้นโดยลำดับนับแต่ปฐมมรรค(โสดาปัตติมรรค)เป็นต้นไปจนถึงอรหัตตผล (ขุ.เถรี.อ.
105/126)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :572 }


พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรีคาถา [5. ปัญจกนิบาต] 9. ภัททากุณฑลเกสาเถรีคาถา
[106] ขันธ์ 5 ที่เรากำหนดรู้แล้ว
มีรากอันขาดแล้ว คงอยู่
สิ่งที่ยังคงอยู่ ก็คงมีอยู่ในกายที่คร่ำคร่า เลวทราม
บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก

9. ภัททากุณฑลเกสาเถรีคาถา
ภาษิตของพระภัททากุณฑลเกสาเถรี
(พระภัททากุณฑลเกสาเถรีได้กล่าวภาษิตเหล่านี้ว่า)
[107] เมื่อก่อนเราถอนผม อมขี้ฟัน
มีผ้าผืนเดียว เที่ยวไป
สำคัญในสิ่งที่ไม่มีโทษว่ามีโทษ
และเห็นในสิ่งที่มีโทษว่าไม่มีโทษ
[108] เราจากที่พักกลางวันบนภูเขาคิชกูฏ
ได้เห็นพระพุทธเจ้าผู้ปราศจากกิเลส
แวดล้อมด้วยหมู่ภิกษุ
[109] จึงคุกเข่าถวายบังคม ทำอัญชลีเบื้องพระพักตร์
พระองค์ได้ตรัสว่า มาเถิด ภัททา
พระดำรัสนั้น ทำให้เราได้อุปสมบทแล้ว
[110] เมื่อก่อน เราบริโภคก้อนข้าวของชาวแว่นแคว้นอย่างเป็นหนี้
จาริกไปทั่วแคว้นอังคะ มคธ วัชชี กาสี และโกศล
ตั้งแต่พบพระศาสดา เราบริโภคก้อนข้าวของชาวแว่นแคว้นอย่าง
ไม่เป็นหนี้มา 50 ปีแล้ว
[111] ก็อุบาสกที่ได้ถวายจีวรแก่เราผู้ชื่อว่าภัททา
ซึ่งพ้นจากกิเลสที่ร้อยรัดทุกอย่าง
เป็นคนมีปัญญา ได้ประสบบุญเป็นอันมาก

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :573 }