เมนู

พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรีคาถา [4. จตุกกนิบาต] 1. ภัททกาปิลานีเถรีคาถา
4. จตุกกนิบาต
1. ภัททกาปิลานีเถรีคาถา
ภาษิตของพระภัททกาปิลานีเถรี
พระภัททกาปิลานีเถรี(ได้กล่าวภาษิตเหล่านี้ว่า)
[63] พระมหากัสสปเถระเป็นบุตร
เป็นทายาทของพระพุทธเจ้า
มีจิตตั้งมั่นดีแล้ว
ท่านระลึกชาติได้ ทั้งเห็นสวรรค์และอบาย
[64] อนึ่ง ท่านถึงความสิ้นชาติ
เป็นผู้เสร็จกิจแล้ว เพราะรู้ยิ่ง เป็นมุนี
เป็นพราหมณ์ผู้ได้วิชชา 3 ด้วยวิชชา 3 เหล่านี้
[65] พระภัททกาปิลานีเถรีก็ได้วิชชา 3 เหมือนพระมหากัสสปะ
ละมัจจุราชได้
ชนะมารพร้อมทั้งเสนามารได้แล้ว
ยังทรงร่างกายที่มีในภพสุดท้ายอยู่
[66] เราทั้ง 2 เห็นโทษทางโลก แล้วออกบวช
ฝึกฝนตน สิ้นอาสวะ
เป็นผู้เย็น ดับสนิทแล้ว
จตุกกนิบาต จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :566 }


พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรีคาถา [5. ปัญจกนิบาต] 2. วิมลาเถรีคาถา
5. ปัญจกนิบาต
1. อัญญตราเถรีคาถา
ภาษิตของพระอัญญตราเถรี
พระเถรีรูปหนึ่ง(ได้กล่าวภาษิตเหล่านี้ว่า)
[67] ตั้งแต่เราบวชมาตลอด 25 พรรษา ยังไม่ประสพความสงบจิต
แม้ชั่วเวลาเพียงลัดนิ้วมือเดียวเลย
[68] เราไม่ได้ความสงบจิต มีจิตชุ่มด้วยกามราคะ
เดินประคองแขนคร่ำครวญเข้าไปสู่วิหาร
[69] ได้เข้าไปหาภิกษุณีผู้มีวาจาที่เชื่อถือได้
ท่านได้แสดงธรรม คือ ขันธ์ อายตนะ และธาตุแก่เรา
[70] เราฟังธรรมของท่านแล้ว เข้าไปนั่ง ณ ที่สมควร
ระลึกชาติได้ ชำระทิพยจักษุให้หมดจดแล้ว
[71] เราชำระเจโตปริยญาณและโสตธาตุให้หมดจดแล้ว
แม้ฤทธิ์เราก็ทำให้แจ้งแล้ว ธรรมเป็นที่สิ้นอาสวะเราก็บรรลุแล้ว
อภิญญา 6 เราก็ทำให้แจ้งแล้ว
เราได้ทำตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว

2. วิมลาเถรีคาถา
ภาษิตของพระวิมลาเถรี
พระวิมลาเถรีผู้เคยเป็นหญิงคณิกา1 (ได้กล่าวภาษิตเหล่านี้ว่า)
[72] เรามัวเมาด้วยผิวพรรณ รูปสมบัติ ความสวยงาม บริวารยศ
และเป็นผู้มีจิตกระด้างอย่างยิ่ง ด้วยความเป็นสาว ดูหมิ่นหญิงอื่น

เชิงอรรถ :
1 หญิงแพศยา หรือหญิงโสเภณี (ขุ.เถรี.อ. 72/98)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :567 }