เมนู

พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรีคาถา [3. ติกนิบาต] 2. อุตตมาเถรีคาถา
3. ติกนิบาต
1. อปราสามาเถรีคาถา
ภาษิตของพระอปราสามาเถรี
พระอปราสามาเถรี(ได้กล่าวภาษิตเหล่านี้ว่า)
[39] ตั้งแต่เราบวชมาแล้ว 25 พรรษา
ยังไม่รู้สึกว่าได้ความสงบจิตในกาลไหน ๆ เลย
[40] เราบังคับจิตให้อยู่ในอำนาจไม่ได้ จึงไม่ได้ความสงบจิต
เพราะเหตุนั้น เรามาระลึกถึงคำสอนของพระชินเจ้า
จึงได้ถึงความสังเวช
[41] ถูกทุกข์มากมายกระทบแล้ว จึงยินดีในความไม่ประมาท
บรรลุความสิ้นตัณหา ได้ทำตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว
วันนี้เป็นคืนที่ 7 นับแต่วันที่เราทำตัณหาให้แห้งสนิทแล้ว

2. อุตตมาเถรีคาถา
ภาษิตของพระอุตตมาเถรี
พระอุตตมาเถรี(ได้กล่าวภาษิตนี้ว่า)
[42] เราบังคับจิตให้อยู่ในอำนาจไม่ได้ จึงไม่ได้ความสงบจิต
ต้องเข้าออกจากที่อยู่ถึง 4-5 ครั้ง
[43] ได้เข้าไปหาภิกษุณีผู้มีวาจาที่เชื่อถือได้
ท่านได้แสดงธรรม คือขันธ์ อายตนะ และธาตุแก่เรา
[44] เราฟังธรรมของท่านแล้วได้ปฏิบัติตามที่ท่านพร่ำสอน
เอิบอิ่มด้วยสุขที่เกิดแต่ปีติ
นั่งขัดสมาธิท่าเดียวตลอด 7 วัน
ในวันที่ 8 ทำลายกองความมืดได้แล้ว จึงเหยียดเท้าออก

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :561 }


พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรีคาถา [3. ติกนิบาต] 4. ทันติกาเถรีคาถา
3. อปราอุตตมาเถรีคาถา
ภาษิตของพระอปราอุตตมาเถรี
พระอปราอุตตมาเถรี(ได้กล่าวภาษิตเหล่านี้ว่า)
[45] โพชฌงค์ 7 ประการเป็นทางบรรลุนิพพานนี้
เราเจริญแล้วทั้งหมดตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้
[46] ได้สุญญตสมาบัติและอนิมิตตสมาบัติเป็นประจำตามปรารถนา
เราเป็นธิดาซึ่งเกิดแต่พระอุระของพระพุทธเจ้า
ยินดีแล้วในนิพพานทุกเมื่อ
[47] กามทั้งปวงทั้งที่เป็นของทิพย์และของมนุษย์เราก็ตัดขาดแล้ว
การเวียนว่ายตายเกิดสิ้นไปแล้ว
บัดนี้ไม่มีการเกิดอีก

4. ทันติกาเถรีคาถา
ภาษิตของพระทันติกาเถรี
พระทันติกาเถรี(ได้กล่าวภาษิตเหล่านี้ว่า)
[48] เราออกจากที่พักกลางวันบนภูเขาคิชฌกูฏ
ได้เห็นช้างลงสู่แม่น้ำแล้ว ขึ้นที่ฝั่งแม่น้ำจันทภาคา
[49] นายควาญช้างถือขอแล้ว ร้องบอกว่า จงเหยียดเท้าออก
ช้างเหยียดเท้าออกแล้ว
นายควาญช้างจึงขึ้นขี่ช้าง
[50] เราเห็นช้างที่ไม่เคยได้รับการฝึก
ครั้นได้รับการฝึกแล้ว ตกอยู่ในอำนาจของมนุษย์ทั้งหลาย
ภายหลังแต่ได้เห็นช้างนั้น เราจึงเข้าป่า
ทำจิตให้เป็นสมาธิเพราะกิริยาช้างนั้นเป็นเหตุ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :562 }