เมนู

พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรคาถา [16. วีสตินิบาต] 10. ปาราปริยเถรคาถา
[927] เพราะเหตุนั้น ภิกษุแต่ปางก่อนเหล่านั้น
มีความประพฤติทางกายและทางวาจา
การบริโภคปัจจัยการส้องเสพโคจร
และมีอิริยาบถละมุนละไม น่าเลื่อมใส
เหมือนสายน้ำมันที่ไหลออกจากภาชนะไม่ขาดสาย
[928] บัดนี้ ท่านเหล่านั้น สิ้นอาสวะหมดแล้ว
มักเจริญฌานเป็นอันมาก
ประกอบด้วยประโยชน์มาก
เป็นพระเถระ นิพพานแล้ว
เดี๋ยวนี้ท่านเช่นนั้นยังเหลืออยู่จำนวนน้อย
[929] เพราะกุศลธรรมและปัญญาสิ้นไป
คำสอนของพระชินเจ้าซึ่งประกอบด้วยสภาวะอันประเสริฐ
ทุกอย่างก็เลือนหายไป
[930] เวลาที่บาปธรรมและกิเลสกำลังเฟื่องฟู
ส่วนเหล่าภิกษุที่มุ่งมั่นเพื่อความสงบสงัด
ชื่อว่าเป็นผู้มีพระสัทธรรมที่เหลือเป็นข้อปฏิบัติ
[931] กิเลสเหล่านั้นเฟื่องฟูอยู่
ก็ย่อมครอบงำชนผู้โง่เขลาเป็นจำนวนมาก
เหมือนจะเยาะเย้ยเล่นกับเหล่าชนผู้โง่เขลา
ดุจปีศาจเข้าสิงผู้คนทำให้บ้า
แล้วเล่นกับพวกเขาที่บ้าแล้ว
[932] คนที่ยังโง่เขลาเหล่านั้น ถูกกิเลสครอบงำ
จึงพล่านไปในวัตถุเป็นที่ตั้งแห่งกิเลส
ตามส่วนแห่งอารมณ์นั้น ๆ
เหมือนพล่านไปหาสิ่งที่ตนใคร่ ที่เขาเชิญชวนไว้ ฉะนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :492 }